
เพื่อนๆ นักลงทุนและผู้ที่กำลังเล็งๆ อยากเข้าสู่โลกของตลาดหุ้นไทยครับ!
ช่วงนี้ถ้าใครลองเปิดดูตัวเลขบนหน้าจอบ้าง หรืออาจจะแค่ได้ยินข่าวผ่านๆ หูเรื่องตลาดหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ ก็คงมีคำถามผุดขึ้นมาในใจว่า “ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงนะ?” โดยเฉพาะคนที่เพิ่งก้าวเข้ามา อาจจะเคยได้ยินคำว่า `หุ้น SET100` แล้วสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงสำคัญ วันนี้ผมในฐานะคนที่คลุกคลีในวงการนี้มาระยะหนึ่ง จะขออาสาพาไปทำความเข้าใจเรื่องนี้กันแบบง่ายๆ สไตล์เพื่อนเล่าให้เพื่อนฟัง พร้อมดูข้อมูลล่าสุดที่ได้มา ณ วันที่ 19 เมษายน 2568 ว่าตลาดและ `หุ้น SET100` บอกอะไรเราบ้างในวันนั้น
ลองนึกภาพตามนะครับว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Stock Exchange of Thailand; SET) เนี่ย ก็เหมือนสนามฟุตบอลยักษ์ใหญ่ที่มีทีมเก่งๆ มาแข่งกันเต็มไปหมด แต่ละทีมก็คือบริษัทต่างๆ ที่มาเข้าจดทะเบียน `หุ้น` ให้เราได้ร่วมเป็นเจ้าของ ทีนี้เนี่ย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามว่าสนามรวมนี้ภาพรวมเป็นยังไง เค้าก็เลยมีสิ่งที่เรียกว่า “ดัชนี” ขึ้นมาครับ
เจ้า “ดัชนี SET” ก็เหมือนคะแนนรวมของทั้งสนาม ถ้าดัชนี SET ขึ้น ก็แปลว่าภาพรวมหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดมีราคาเพิ่มขึ้น ถ้าลงก็ตรงกันข้าม ส่วนเจ้า `หุ้น SET100` ที่เราจะคุยกันวันนี้ ก็คือดัชนีที่สะท้อนภาพของ “ทีมดาวเด่น” 100 ทีมแรกในสนามนี้ หรือก็คือบริษัทขนาดใหญ่ถึงกลางที่มีสภาพคล่องสูง มีมูลค่าตลาดรวมกันมหาศาล และมักจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดเลยก็ว่าได้ครับ การที่ดัชนี `หุ้น SET100` เปลี่ยนแปลง ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางของบรรดาพี่ใหญ่ในตลาดนั่นเอง

จากข้อมูลที่เราเห็นกันเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันปิดทำการซื้อขายของตลาด `หุ้น` ไทย ณ เวลาที่สรุปข้อมูล ดัชนี SET ภาพรวมอยู่ที่ 1,192.24 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย 3.83 จุด หรือคิดเป็น +0.32% แม้จะมีช่วงผันผวนระหว่างวัน (จากข้อมูลอีกชุดเห็นว่าระหว่างวันไปถึง 1,589.81 จุด ก่อนจะลงมาปิดที่ 1,192.24) แต่วันนั้นก็ถือว่าตลาดปิดบวกได้เล็กน้อย ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,119 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขายรวมประมาณ 5,003 ล้านบาท ถือเป็นปริมาณที่ไม่สูงมากนักในภาพรวม
ทีนี้มาเจาะที่ `หุ้น SET100` กันบ้างครับ ในวันเดียวกัน ดัชนี `หุ้น SET100` ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาด โดยปิดที่ 1,642.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.31 จุด หรือ +0.39% จะเห็นได้ว่าดัชนี `หุ้น SET100` มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับดัชนี SET เพราะเป็นกลุ่ม `หุ้น` ที่มีอิทธิพลสูงมาก การที่ `หุ้น` ขนาดใหญ่ 100 ตัวแรกขยับ ก็ส่งผลต่อภาพรวมตลาดอย่างชัดเจน
แล้วทำไม `หุ้น SET100` ถึงถูกเลือกเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ล่ะ? เค้าไม่ได้เลือกมั่วๆ นะครับ มันมีเกณฑ์อยู่เหมือนกัน หลักๆ คือต้องเป็นบริษัทใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าตลาดสูง ติดอันดับต้นๆ ของตลาด มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันเยอะ หรือที่เราเรียกว่ามี “สภาพคล่อง” สูง พูดง่ายๆ คืออยากซื้อก็ซื้อง่าย อยากขายก็ขายคล่อง และที่สำคัญคือต้องมี `หุ้น` ที่นักลงทุนรายย่อยหรือประชาชนทั่วไปถืออยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย (Free Float) ไม่ใช่ว่าเจ้าของถือคนเดียวเกือบหมด แบบนี้จะไม่เข้าเกณฑ์ และรายชื่อ `หุ้น` ในกลุ่ม SET100 ก็จะมีการปรับปรุงทุก 6 เดือน เพื่อให้สะท้อนภาพของบริษัทที่ใหญ่และมีสภาพคล่องที่สุดในตลาด ณ เวลานั้นจริงๆ ซึ่งดัชนีนี้เค้าก็ใช้คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาด ยิ่งบริษัทไหนใหญ่มาก มูลค่าตลาดสูง ก็ยิ่งมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี `หุ้น SET100` มากขึ้น เหมือนหัวเรือใหญ่ที่ออกตัว ก็พาขบวนเรือไปได้แรงขึ้นนั่นแหละครับ
เจ้าดัชนี `หุ้น SET100` เนี่ย มีประโยชน์หลายอย่างเลยนะครับ นอกจากจะเป็นเหมือน “มาตรวัด” หรือ Benchmark ให้เราเห็นภาพรวมของ `หุ้น` ขนาดใหญ่ในตลาดแล้ว ยังถูกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ด้วย เช่น กองทุนรวมประเภท ETF หรือ Tracker Funds ที่ออกแบบมาให้ลงทุนตามการเคลื่อนไหวของดัชนี `หุ้น SET100` โดยตรง ใครที่สนใจลงทุนใน `หุ้น` ใหญ่ๆ หลายๆ ตัวพร้อมกันทีเดียว ก็อาจจะพิจารณาการลงทุนผ่านเครื่องมือเหล่านี้ได้ครับ

ทีนี้ ถ้าเราลองไปดู “สัญญาณทางเทคนิค” หรือเครื่องมือที่นักวิเคราะห์ใช้ดูกันบ้าง (อ้างอิงจากข้อมูลตัวชี้วัด Oscillator และ Moving Average ที่มีมา) จะพบว่าสัญญาณที่ได้ออกมาในวันนั้นค่อนข้าง “ผสมผสาน” ครับ มีทั้งสัญญาณที่เป็นกลางๆ สัญญาณที่บอกว่ามี “แรงซื้อ” สัญญาณที่บอกว่ามี “แรงขาย” หรือแม้แต่สัญญาณที่บอกว่ามี “แรงซื้อ/แรงขายรุนแรง” ปะปนกันไปหมดเลย
คุณอาจจะสงสัยว่า “อ้าว แล้วสรุปมันจะขึ้นหรือจะลงกันแน่ล่ะ?” สัญญาณที่ผสมผสานแบบนี้ มันกำลังบอกเราว่า ตลาด `หุ้น` หรือโดยเฉพาะ `หุ้น SET100` ณ วันนั้น ยังมีความไม่แน่นอนสูงครับ เหมือนมีแรงซื้อกับแรงขายกำลังงัดข้อกันอยู่ ไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบชัดเจน ซึ่งนี่ก็เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในตลาด `หุ้น` ที่ยังหาทิศทางที่ชัดเจนไม่ได้
ถ้ามองลงไปดูที่รายตัวในกลุ่ม `หุ้น SET100` เอง ก็จะเห็นภาพความหลากหลายนี้ชัดเจนขึ้นครับ จากข้อมูล เราเห็นว่ามี `หุ้น` หลายตัวที่มีสัญญาณบ่งชี้ถึง “แรงซื้อ” หรือ “แรงซื้อรุนแรง” น่าสนใจ เช่น ปตท. (PTT), แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), ซีพี ออลล์ (CPALL), ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE), กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS), ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รวมถึงอีกหลายๆ ตัวในกลุ่มพลังงาน เทคโนโลยี การเงิน โรงพยาบาล และค้าปลีก
ในขณะเดียวกัน ก็มีบางตัวที่สัญญาณยังเป็นกลางๆ หรือบางตัวก็อาจมีสัญญาณขายปนอยู่ด้วย ซึ่งนี่คือธรรมชาติของตลาด `หุ้น` แม้จะเป็น `หุ้น` ในกลุ่มใหญ่เหมือนกัน แต่ก็มีปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละบริษัทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
ในภาพรวมของวันนั้น นอกจาก `หุ้น` ใน SET100 ที่ขยับขึ้นแล้ว ดัชนีสำคัญอื่นๆ อย่าง SET50 (50 ตัวแรกใน SET100), SETHD (กลุ่ม `หุ้น` ปันผลสูง) หรือ SETESG (กลุ่ม `หุ้น` ยั่งยืน) ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ก็มีบางดัชนีอย่าง mai ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า `หุ้น` ขนาดเล็กกว่า (mai) อาจจะไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับ `หุ้น` พี่ใหญ่เสมอไป
ท้ายที่สุดแล้ว การที่เรามาทำความเข้าใจเรื่อง `หุ้น SET100` และดูข้อมูลตลาดในแต่ละวันแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้ข้อมูลแค่วันเดียวมาตัดสินใจลงทุนได้เลยนะครับ อย่างที่เห็นว่าสัญญาณจากเครื่องมือต่างๆ ยังผสมผสานอยู่ การลงทุนใน `หุ้น` โดยเฉพาะ `หุ้น` ในกลุ่ม SET100 ซึ่งแม้จะเป็นบริษัทใหญ่ที่แข็งแกร่ง ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่เสมอ
**สิ่งที่อยากฝากไว้ให้เพื่อนๆ นักลงทุนนำไปคิดต่อ:**
1. **ทำความรู้จัก “ทีมดาวเด่น” เหล่านี้ให้มากขึ้น:** ถ้าสนใจ `หุ้น SET100` ตัวไหน ลองเจาะลึกไปดูพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ ครับ ว่าเค้าทำธุรกิจอะไร รายได้เป็นยังไง มีอนาคตเติบโตแค่ไหน
2. **อย่ามองแค่ตัวเลขรายวัน:** การขึ้นลงของดัชนี `หุ้น SET100` ในวันเดียวเป็นแค่ภาพสั้นๆ ลองมองภาพใหญ่และแนวโน้มในระยะยาวประกอบด้วย
3. **สัญญาณมีไว้ให้ศึกษา ไม่ใช่ให้เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา:** สัญญาณทางเทคนิค หรือคำแนะนำต่างๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข้อมูลครับ เราต้องเอามาประกอบกับการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท และสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมด้วย
4. **กระจายความเสี่ยง:** ไม่ควรทุ่มเงินทั้งหมดไปที่ `หุ้น` ตัวเดียวหรือกลุ่มเดียวครับ ลองแบ่งเงินลงทุนไปในสินทรัพย์หลายๆ ประเภท หรือ `หุ้น` ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับ `หุ้น` ตัวใดตัวหนึ่ง
จำไว้เสมอว่า โลกของ `หุ้น` มีความผันผวน ไม่ว่าจะเป็น `หุ้น` ตัวเล็กตัวใหญ่ หรือแม้แต่ในกลุ่ม `หุ้น SET100` เองก็ตาม
⚠️ **คำเตือน:** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใน `หุ้น` หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดๆ ครับ ข้อมูลที่นำเสนอวันนี้เป็นเพียงการสรุปจากข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2568 เพื่อให้เห็นภาพรวมเบื้องต้นเท่านั้น สถานการณ์ตลาด `หุ้น` สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาครับ.