
เห็นข่าวหุ้นวันนี้แล้วงงๆ ไหมครับ? ราคาขึ้นๆ ลงๆ จนบางทีก็แอบคิดในใจว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกับตลาดกันนะ?” โดยเฉพาะตัวเลขที่เห็นบ่อยๆ อย่าง “ดัชนี SET50” หรือ ราคา set50 ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนภาพรวมของหุ้นตัวใหญ่ๆ ในบ้านเรา
สวัสดีครับ ผมคอลัมนิสต์การเงินที่จะพาคุณไปทำความรู้จักกับโลกการลงทุนแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีพื้นฐานแน่นก็เข้าใจได้ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง ราคา set50 นี่แหละครับ ว่ามันคืออะไร สำคัญยังไง แล้วเราในฐานะนักลงทุนจะมองมันในมุมไหนได้บ้าง
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 เวลาสามทุ่มกว่าๆ ตลาดหลักทรัพย์บ้านเราก็ปิดทำการไปแล้วครับ ภาพรวมดัชนี SET ก็อยู่ที่ประมาณ 1,146 จุดกว่าๆ ติดลบไปนิดหน่อยประมาณ 0.60% แต่ที่น่าสนใจและหลายคนจับตาคือ ราคา set50 ซึ่งปิดที่ 732.52 จุด ลดลงไป 6.02 จุด คิดเป็นประมาณ 0.82% ครับ ดูเหมือนหุ้นใหญ่ๆ ใน 50 อันดับแรกวันนี้จะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่เนอะ
ลองแอบดูภาพรวมตลาดนิดนึง จะเห็นว่าในตลาด SET วันนี้มีหุ้นที่ราคาขึ้น 248 ตัว ไม่เปลี่ยนแปลง 200 ตัว และราคาลง 211 ตัว ส่วนตลาด mai ที่เป็นตลาดสำหรับหุ้นขนาดเล็ก ก็มีภาพคล้ายๆ กัน คือตัวที่ขึ้นกับลงมีจำนวนใกล้เคียงกัน ซึ่งบ่งบอกว่าตลาดโดยรวมค่อนข้างแกว่งตัว หรือมีแรงขายทำกำไรในบางส่วน ในขณะที่บางส่วนก็ยังมีแรงซื้ออยู่

แล้วไอ้ ราคา set50 เนี่ย มันสำคัญยังไง? นึกภาพง่ายๆ ครับ SET50 Index ก็เหมือนกับดัชนีชี้วัดสุขภาพของ “ทีมชาติ” หุ้นไทย ที่คัดเอา 50 บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดสูง สภาพคล่องในการซื้อขายดี และมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมารวมกัน ถ้า ราคา set50 ขึ้น ก็แปลว่าหุ้นใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ในทีมชาติกำลังไปได้ดี แต่ถ้าลง ก็อาจจะสะท้อนว่าหุ้นกลุ่มนี้กำลังเผชิญปัจจัยกดดัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าอยากลงทุนตาม SET50 ต้องไปซื้อหุ้นทั้ง 50 ตัวเลยเหรอ? โห…แค่คิดก็เหนื่อยแล้วครับ แถมใช้เงินเยอะมากๆ ด้วย นี่แหละครับถึงมีทางเลือกอื่นๆ ที่ช่วยให้เราลงทุนตาม ราคา set50 ได้ง่ายขึ้น
หนึ่งในวิธีที่คนนิยมใช้กันมากๆ ก็คือการลงทุนผ่าน “กองทุนรวมดัชนี SET50” ครับ อย่างกองทุน K-SET 50 Index Fund ของ บลจ.กสิกรไทย ที่เรามีข้อมูลเนี่ย เป็นตัวอย่างที่ดีเลยครับ กองทุนประเภทนี้มีนโยบายลงทุนตามดัชนี SET50 เป๊ะๆ พูดง่ายๆ คือเขาจะพยายามซื้อหุ้น 50 ตัวนั้นในสัดส่วนเดียวกับที่หุ้นเหล่านั้นมีน้ำหนักในดัชนี เพื่อให้ผลตอบแทนของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของ ราคา set50 มากที่สุด
จากข้อมูลของกองทุน K-SET 50 Index Fund ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 (ซึ่งเป็นข้อมูลมูลค่าทรัพย์สินรวม) กองทุนนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value หรือ NAV) ต่อหน่วยอยู่ที่ 28.995 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 2.82% นะครับ ส่วนข้อมูลการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 กองทุนนี้ก็กระจายการลงทุนไปในหลายอุตสาหกรรมหลักๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ SET50 เช่น พลังงานและสาธารณูปโภค (23.14%) ธนาคาร (15.98%) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (14.27%) เป็นต้น และมีหุ้นที่เราคุ้นๆ ชื่อกันดีอย่าง ปตท., เดลต้า อีเลคโทรนิคส์, แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, และท่าอากาศยานไทย เป็น 5 อันดับแรกที่กองทุนนี้ถือครองอยู่ครับ การลงทุนในกองทุนรวมแบบนี้ ก็เหมือนการซื้อหุ้น 50 ตัวในตะกร้าเดียว ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูงมาก (อย่างกองทุนนี้เริ่มต้นแค่ 1,000 บาท) และไม่ต้องมานั่งติดตามข่าวหุ้นทีละตัวให้ปวดหัวครับ
แต่ข้อควรระวังสำหรับกองทุนรวมดัชนีคือ เขาลงทุนตามดัชนีเป๊ะๆ นะครับ ถ้า ราคา set50 ขึ้น กองทุนก็ขึ้นตาม ถ้าลง กองทุนก็ลงตาม เราไม่สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อเฉพาะหุ้นตัวไหนที่ดี แต่ก็แลกมากับความง่ายและการกระจายความเสี่ยงไปในตัว
นอกจากกองทุนรวมแล้ว สำหรับนักลงทุนที่ “ซ่า” ขึ้นมาอีกหน่อย ก็มีเครื่องมือที่เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์อนุพันธ์” หรือ TFEX (ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า) ให้เลือกลงทุนตาม ราคา set50 ได้เหมือนกันครับ ตัวฮิตๆ ก็เช่น SET50 Index Futures หรือ SET50 Index Options

ไอ้เจ้าฟิวเจอร์ส SET50 เนี่ย มันก็คือสัญญาระหว่างคนสองคนที่ตกลงจะซื้อหรือขายดัชนี SET50 ที่ ราคา set50 เท่าไหร่ ณ วันที่ในอนาคต ซึ่งสัญญาก็จะมีหลายเดือนให้เลือก แต่ที่นิยมก็มักจะเป็นซีรีย์สัญญาที่ใกล้จะหมดอายุครับ การลงทุนในฟิวเจอร์สเนี่ยไม่ต้องใช้เงินเต็มจำนวนเหมือนซื้อหุ้น แค่วางเงินประกันไว้ส่วนหนึ่ง แต่ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะมีการใช้เลเวอเรจ (Leverage) ครับ ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ ราคา set50 ในตลาดฟิวเจอร์ส มักจะต่ำกว่า ราคา set50 จริงๆ เล็กน้อย หรือที่เราเรียกว่า “ส่วนลด” (Discount) นั่นก็เพราะว่า เวลาเราถือหุ้นจริงๆ เราจะได้เงินปันผล แต่เวลาซื้อฟิวเจอร์ส เราไม่ได้สิทธิ์ตรงนั้นครับ
ส่วนออปชัน SET50 เนี่ย จะซับซ้อนขึ้นไปอีกนิด มันคือสิทธิ์ (ไม่ใช่ภาระผูกพัน) ที่จะซื้อ (Call Option) หรือจะขาย (Put Option) ดัชนี SET50 ที่ ราคา set50 ระดับหนึ่ง (เรียกว่า Strike Price) ภายในระยะเวลาที่กำหนดครับ เครื่องมืออนุพันธ์พวกนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์หน่อย เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ ทั้งเรื่องค่า IV (Implied Volatility), Delta, Gamma, Vega, Theta ซึ่งแต่ละตัวก็ส่งผลต่อราคาออปชันและกลยุทธ์การซื้อขายครับ
บางคนเวลาดู ราคา set50 หรือจะตัดสินใจซื้อขาย ก็จะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “การวิเคราะห์ทางเทคนิค” ครับ วิธีนี้เขาจะดูกราฟราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีต แล้วใช้ “ตัวชี้วัดทางเทคนิค” (Technical Indicators) ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) หรือ Oscillators เพื่อช่วยตัดสินใจว่าจะ ซื้อ หรือ ขาย หรือจะอยู่เฉยๆ ดี จากข้อมูลที่เรามี การวิเคราะห์ทางเทคนิคให้สัญญาณที่หลากหลายมากครับ ถ้าดูรายวัน สัญญาณบอกให้ “ซื้อทันที” แต่พอไปดูรายสัปดาห์ หรือรายเดือน กลับให้สัญญาณ “ขาย” หรือ “ขายทันที” ซะงั้น ซึ่งสะท้อนว่ามุมมองในระยะสั้น กลาง และยาว อาจจะแตกต่างกัน เครื่องมือพวกนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในการช่วยตัดสินใจนะครับ ไม่ได้การันตีว่าจะถูกเสมอไป
การที่ ราคา set50 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (ณ วันที่ 3 เมษายน 2568) ก็เป็นไปตามภาวะตลาดโดยรวมที่มีทั้งแรงซื้อและแรงขาย หลายๆ ครั้ง ราคา set50 ก็ได้รับอิทธิพลจากข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ ปัจจัยเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่ความรู้สึกของนักลงทุนโดยรวมครับ
ทีนี้กลับมาที่คำถามแรกว่า แล้วเราจะมอง ราคา set50 ในมุมไหนดี?
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนตามดัชนีหุ้นใหญ่ๆ ง่ายๆ และรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง การมองหา “กองทุนรวมดัชนี SET50” ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ เหมือนซื้อยกแพ็ค ไม่ต้องเลือกเอง ศึกษาข้อมูลของกองทุนดีๆ ดูผลตอบแทนย้อนหลัง (เทียบกับดัชนีเปรียบเทียบอย่างดัชนีผลตอบแทนรวม SET50) ขนาดกองทุน และนโยบายการจ่ายปันผล (กองทุนดัชนี SET50 ส่วนใหญ่จะไม่จ่ายปันผล)
สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากขึ้น เข้าใจกลไกตลาด และยอมรับความเสี่ยงที่สูงกว่าได้ การใช้ “ผลิตภัณฑ์อนุพันธ์” อย่าง SET50 Index Futures หรือ Options อาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารความเสี่ยง หรือสร้างผลตอบแทนจากการคาดการณ์ทิศทาง ราคา set50 ได้ แต่ก็ต้องศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ก่อนนะครับ เพราะมันมีความซับซ้อนและใช้เลเวอเรจ ซึ่งทำให้กำไรขาดทุนรุนแรงได้ทั้งสองทาง
ไม่ว่าจะเลือกช่องทางไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจตัวเองก่อนครับ ว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน มีเป้าหมายการลงทุนระยะสั้นหรือยาว แล้วค่อยเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับเราที่สุดครับ ราคา set50 ก็เป็นเหมือนตัวบอกเล่าเรื่องราวของหุ้นไทยตัวใหญ่ๆ ที่เราต้องติดตามและทำความเข้าใจมันในมุมต่างๆ ครับ
**สรุปและข้อแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่:**
1. **ทำความรู้จัก SET50:** เข้าใจว่ามันคืออะไร เป็นตัวแทนของหุ้นใหญ่ 50 ตัวแรกในตลาดไทย
2. **พิจารณา “กองทุนรวมดัชนี SET50”:** เป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุดในการลงทุนตาม ราคา set50 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง ไม่ต้องเลือกหุ้นเอง ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูงมาก แต่ต้องยอมรับผลตอบแทนที่อิงตามดัชนี
3. **ผลิตภัณฑ์อนุพันธ์เหมาะกับผู้มีประสบการณ์:** SET50 Futures และ Options เป็นเครื่องมือที่ซับซ้อน ใช้เลเวอเรจ มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนลงทุน
4. **อย่าเชื่อสัญญาณเทคนิคเพียงอย่างเดียว:** การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งในการช่วยตัดสินใจ ควรใช้ประกอบกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและสภาวะตลาดโดยรวม
5. **ประเมินความเสี่ยงของตัวเอง:** ก่อนลงทุนในเครื่องมือใดๆ ก็ตามที่อิงกับ ราคา set50 ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหรืออนุพันธ์ ให้ประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้เสมอ

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ และควรลงทุนในวงเงินที่พร้อมจะสูญเสียได้ทั้งหมด
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมอง ราคา set50 ได้ชัดเจนขึ้นนะครับ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเราค่อยๆ ทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของเราครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ!