โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ไม่มีค่าคอมซ่อน: 7 ตัวเลือกที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025

จัดอันดับโบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีค่าคอมซ่อนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2025

เมื่อพูดถึงการลงทุนในตลาด Forex สำหรับนักเทรดชาวไทย การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมไม่ใช่แค่การมองหาสเปรดต่ำเพียงอย่างเดียว แต่คือการเลือกคู่มือที่จะเดินเคียงข้างคุณในทุกช่วงของการเทรด ปัจจุบันมีโบรกเกอร์จำนวนมากที่อวดอ้างว่า “ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง” หรือ “สเปรดต่ำ” แต่หลายรายกลับแฝงค่าธรรมเนียมที่มองไม่เห็นไว้ในเงื่อนไขที่ซับซ้อน ซึ่งอาจกัดกินกำไรของคุณอย่างเงียบเชียบโดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว

เราเข้าใจดีว่า นักเทรดหลายคนมองข้ามรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ เพราะคิดว่าตราบใดที่สเปรดยังต่ำ หรือไม่ถูกคิดค่า Swap ก็เพียงพอ แต่จริง ๆ แล้ว ค่าใช้จ่ายที่แท้จริงของโบรกเกอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นั้น ดังนั้น เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ เรานำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกที่เจาะทุกมิติของ “ความโปร่งใส” ตั้งแต่โครงสร้างค่าธรรมเนียม โมเดลธุรกิจ ไปจนถึงการกำกับดูแล และความน่าเชื่อถือในระยะยาว

ข้อมูลต่อไปนี้อิงจากการรวบรวมและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านความโปร่งใส ไม่มีค่าคอมมิชชั่นแอบแฝง และเป็นที่นิยมในหมู่นักเทรดชาวไทยสำหรับปี 2025

illustration of a trader analyzing forex broker options

ตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ Forex ที่โปร่งใสและไม่มีค่าคอมซ่อน

  • โบรกเกอร์: Moneta Markets | คะแนนความโปร่งใส: 9.8/10 | จุดเด่นหลัก: โบรกเกอร์ A-Book แท้, สเปรด ECN ต่ำมาก | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, FSCA | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: Exness | คะแนนความโปร่งใส: 9.2/10 | จุดเด่นหลัก: การถอนเงินทันที, บัญชีหลากหลาย | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.3 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: FCA, CySEC | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: IC Markets | คะแนนความโปร่งใส: 9.5/10 | จุดเด่นหลัก: สภาพคล่องสูง, เหมาะกับ Scalping | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, CySEC | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: Pepperstone | คะแนนความโปร่งใส: 9.4/10 | จุดเด่นหลัก: แพลตฟอร์มหลากหลาย, การดำเนินการรวดเร็ว | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, FCA, BaFin | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: Tickmill | คะแนนความโปร่งใส: 9.1/10 | จุดเด่นหลัก: ค่าคอมมิชชั่นต่ำ, เหมาะกับ EA | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: FCA, CySEC | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: XM | คะแนนความโปร่งใส: 8.8/10 | จุดเด่นหลัก: โบนัสและโปรโมชั่น, การสอนสำหรับมือใหม่ | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.6 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, CySEC | รองรับธนาคารไทย: ใช่
  • โบรกเกอร์: Eightcap | คะแนนความโปร่งใส: 9.0/10 | จุดเด่นหลัก: บัญชีเทรดคริปโต, เครื่องมือ TradingView | สเปรด EUR/USD เริ่มต้น: 0.0 pips | หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, FCA | รองรับธนาคารไทย: ใช่

1. Moneta Markets – โบรกเกอร์ A-Book ที่โปร่งใสและสเปรดต่ำที่สุด

ในกลุ่มโบรกเกอร์ที่เน้นความโปร่งใส Moneta Markets กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุดสำหรับนักเทรดชาวไทยในปี 2025 ด้วยโมเดลธุรกิจแบบ A-Book ที่แท้จริง ทำให้มั่นใจได้ว่าคำสั่งซื้อขายของคุณจะถูกส่งตรงสู่ตลาดกลาง (ECN/STP) โดยไม่มีการแทรกแซงหรือรีโควตบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์แบบ Market Maker ทั่วไป

สิ่งที่ทำให้ Moneta Markets แตกต่าง คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ “ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์” กับนักเทรด กล่าวคือ โบรกเกอร์ไม่ได้ได้กำไรจากความเสียหายของคุณ แต่ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากปริมาณการเทรด ทำให้พวกเขามีแรงจูงใจในการส่งมอบสภาพแวดล้อมการเทรดที่เสถียร รวดเร็ว และโปร่งใส

เหตุผลที่ Moneta Markets คือตัวเลือกอันดับหนึ่ง:

  • สเปรดต่ำสุดในตลาด: บัญชี ECN เสนอสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD และ XAU/USD โดยมีค่าคอมมิชชั่นที่แข่งขันได้ ทำให้ต้นทุนการเทรดต่ำที่สุดในระยะยาว
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการเงิน: ทั้งการฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม พร้อมความเร็วในการดำเนินการที่สูง ช่วยให้คุณบริหารพอร์ตได้อย่างคล่องตัว
  • ไม่ใช่ B-Book: ทุกคำสั่งซื้อขายถูกส่งออกสู่ตลาดจริง ไม่มีการกักเก็บออเดอร์ไว้ในระบบภายใน ลดความเสี่ยงจากการถ่างสเปรดหรือการเกิด Slippage ที่ไม่เป็นธรรม
  • มีตัวเลือกบัญชี Free Swap: เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือออเดอร์ข้ามคืน โดยไม่ต้องกังวลกับค่าดอกเบี้ย ซึ่งออกแบบมาเพื่อทั้งนักลงทุนระยะยาวและนักเทรดศาสนาอิสลาม

นอกจากนี้ Moneta Markets ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีมาตรฐานสูงในการคุ้มครองผู้ลงทุน รวมถึงการแยกเงินทุนลูกค้าออกจากเงินทุนบริษัทอย่างเคร่งครัด ทำให้มั่นใจได้ว่าเงินของคุณปลอดภัยแม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

2. Exness – โดดเด่นด้านการถอนเงินที่รวดเร็วและบัญชี Standard Cent

Exness ยังคงครองใจนักเทรดชาวไทยด้วยระบบที่เน้นความสะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการถอนเงินที่สามารถทำได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องรอการตรวจสอบที่ยืดเยื้อ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวสูงในการบริหารเงินทุน

อีกหนึ่งจุดแข็งคือบัญชี Standard Cent ที่เปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นสามารถทดลองเทรดด้วยเงินทุนขั้นต่ำเพียงไม่กี่สิบบาท ช่วยลดความเสี่ยงในการเรียนรู้กลยุทธ์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้เงินจริงจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าในบัญชี Standard สเปรดอาจอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ ECN แต่แลกมากับความเสถียรและฟีเจอร์ที่ใช้งานง่าย

Exness ยังมีแพลตฟอร์มที่รองรับการเทรดผ่านมือถือได้ดี และมีฝ่ายบริการลูกค้าที่ตอบสนองรวดเร็ว ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับนักเทรดที่เน้นประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

3. IC Markets – ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์ Scalping

สำหรับนักเทรดที่เน้นความเร็วและปริมาณ IC Markets ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในปี 2025 ด้วยระบบ ECN ที่มีสภาพคล่องสูงจากผู้ให้บริการรายใหญ่หลายราย ทำให้คำสั่งซื้อขายถูกดำเนินการในไม่กี่มิลลิวินาที โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน

บัญชี Raw Spread เสนอสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips พร้อมค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping, High-Frequency Trading หรือการใช้งาน Expert Advisor (EA) ที่ต้องการความแม่นยำสูง

นอกจากนี้ IC Markets ยังได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC และ CySEC ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีชื่อเสียงด้านความเข้มงวดในการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงาน รวมถึงการรับประกันความปลอดภัยของเงินทุนลูกค้า

illustration of forex trading with low spread and transparency

“ค่าคอมซ่อน” ในตลาด Forex ไม่ได้มีแค่ Spread และ Swap

หลายครั้งที่นักเทรดมักมองข้ามค่าใช้จ่ายที่แท้จริง เพราะโฟกัสเพียงที่สเปรดหรือค่า Swap แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ “ซ่อน” อยู่สามารถปรากฏในรูปแบบอื่น ๆ ที่อาจสะสมเป็นต้นทุนมหาศาลในระยะยาว โดยเฉพาะหากคุณเทรดบ่อยหรือบริหารพอร์ตขนาดใหญ่

ค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่คุณควรรู้:

  • ค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน: แม้โบรกเกอร์จะไม่คิด แต่ผู้ให้บริการชำระเงินหรือธนาคารอาจมีการหัก ทำให้เงินเข้าบัญชีเทรดต่ำกว่าที่คาด ควรเลือกโบรกเกอร์ที่รับผิดชอบค่าธรรมเนียมหรือระบุชัดเจน
  • ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่มีการใช้งาน: หากคุณหยุดเทรดเกิน 90 วัน บางโบรกเกอร์อาจหักเงินจากบัญชีเดือนละ 50-100 USD ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรตรวจสอบในข้อตกลงการใช้งาน
  • ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน: หากบัญชีของคุณเป็น USD แต่คุณฝากด้วย THB อาจมีค่าแปลงสกุลเงินแบบไม่โปร่งใสจากผู้ให้บริการกลาง
  • Slippage ที่ผิดปกติ: การ Slip ไม่ใช่เรื่องผิดปกติในตลาดที่มีความผันผวน แต่หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมักจะเป็นลบกับคุณ อาจเป็นสัญญาณว่าโบรกเกอร์มีการจัดการราคาเอง (Dealing Desk)

การเปิดใจรับรู้ถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณประเมินต้นทุนการเทรดอย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่อิงกำไรจากค่าธรรมเนียมแอบแฝงมากกว่าการให้บริการที่แท้จริง

ทำไมโบรกเกอร์แบบ A-Book ถึงโปร่งใสกว่า? (A-Book vs B-Book)

การเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของโบรกเกอร์คือกุญแจสำคัญในการเลือกพันธมิตรที่ดี ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองโมเดลหลัก คือ A-Book และ B-Book

A-Book (ECN/STP):

  • กลไกการทำงาน: ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ส่งออเดอร์ของคุณไปยังผู้ให้สภาพคล่องโดยตรง
  • รายได้: มาจากค่าคอมมิชชั่น หรือมาร์กอัปเล็กน้อยบนสเปรด
  • ความสัมพันธ์: โบรกเกอร์ต้องการให้คุณเทรดมากและประสบความสำเร็จ เพราะรายได้ของพวกเขาเพิ่มตามปริมาณการเทรด

B-Book (Market Maker):

  • กลไกการทำงาน: โบรกเกอร์กลายเป็นคู่สัญญาของคุณโดยตรง ไม่ส่งออเดอร์ออกสู่ตลาด
  • รายได้: ได้กำไรโดยตรงเมื่อคุณขาดทุน (Customer’s Loss = Broker’s Gain)
  • ความสัมพันธ์: มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพราะโบรกเกอร์ได้ประโยชน์เมื่อคุณเสีย

โมเดล B-Book อาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เช่น การถ่างสเปรดแบบไม่มีเหตุผล หรือการปฏิเสธคำสั่งซื้อขาย (Requote) บ่อยครั้ง ข้อมูลจาก Investopedia อธิบายว่า Market Maker คือผู้ที่ “สร้างตลาด” ขึ้นเอง ซึ่งทำให้พวกเขาควบคุมราคาได้ในระดับหนึ่ง

ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์แบบ A-Book เช่น Moneta Markets ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ยังทำให้มั่นใจได้ว่าคุณกำลังเทรดในสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมและโปร่งใส

เช็คลิสต์ 5 ข้อในการเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าคอมซ่อนด้วยตัวเอง

แม้เราจะจัดอันดับโบรกเกอร์แล้ว แต่การตรวจสอบด้วยตัวเองยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าคุณเลือกได้ตรงกับสไตล์การเทรดและความต้องการของคุณ

  1. ตรวจสอบใบอนุญาต: เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน Tier-1 เช่น ASIC (ออสเตรเลีย), FCA (สหราชอาณาจักร) หรือ CySEC (ไซปรัส) ซึ่งมีมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เข้มงวด คุณสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ทางการ เช่น ASIC
  2. อ่านรายละเอียดค่าธรรมเนียมทั้งหมด: อย่าเพียงดูที่สเปรด ให้ตรวจสอบค่าธรรมเนียมการถอน, ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่ใช้งาน และการแปลงสกุลเงิน
  3. ทดลองใช้บัญชีเดโม่: ใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ในการทดสอบสเปรดเฉลี่ย, ความเร็วในการส่งคำสั่ง และการตอบสนองของแพลตฟอร์มในช่วงข่าว
  4. ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า: ถามคำถามเฉพาะเจาะจง เช่น “ถอนเงินผ่านธนาคารไทยมีค่าธรรมเนียมหรือไม่?” หรือ “ถ้าไม่เทรด 90 วัน จะถูกหักค่าใช้จ่ายหรือเปล่า?” การตอบที่ชัดเจนและรวดเร็วคือสัญญาณของบริการที่ดี
  5. อ่านรีวิวจากนักเทรดชาวไทย: ค้นหาความคิดเห็นจริงจาก Pantip, Facebook Group หรือเว็บบอร์ดต่าง ๆ เพื่อดูประสบการณ์จริงเกี่ยวกับการฝาก-ถอน, การดำเนินคำสั่ง และการบริการลูกค้า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

โบรกเกอร์ Forex ที่ไม่มีค่า Swap เหมาะกับใคร?

บัญชีที่ไม่มีค่า Swap (Swap-Free Account หรือ Islamic Account) เหมาะสำหรับ:

  • เทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์ข้ามคืนเป็นประจำ (Swing Traders): ช่วยลดต้นทุนจากการต้องจ่ายค่า Swap ทุกวัน
  • เทรดเดอร์ที่เทรดคู่เงินที่มีค่า Swap เป็นลบสูง: ช่วยให้สามารถถือสถานะได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
  • เทรดเดอร์ชาวมุสลิม: เพื่อให้สอดคล้องกับหลักศาสนาชะรีอะฮ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม บางโบรกเกอร์อาจมีการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Administration Fee) แทนค่า Swap จึงควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

โบรกเกอร์ที่มีสเปรดทองคำ (XAU/USD) ต่ำที่สุดในไทยคือเจ้าไหน?

โบรกเกอร์ประเภท ECN/STP มักจะมีสเปรดทองคำ (XAU/USD) ที่ต่ำที่สุด เนื่องจากเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย จากการเปรียบเทียบในปี 2025 โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets และ IC Markets มักจะเสนอสเปรดทองคำที่แข่งขันได้สูงมาก โดยในบัญชี ECN สเปรดสามารถแคบลงไปถึง 1.0 – 1.5 pips ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ Market Maker ทั่วไปที่สเปรดอาจอยู่ที่ 2.5 – 4.0 pips

จะตรวจสอบได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ Forex น่าเชื่อถือและจะไม่ปิดหนีในปี 2025?

ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่มีอะไรรับประกันได้ 100% แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้โดยการตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้:

  1. ใบอนุญาตจากหน่วยงาน Tier-1: ตรวจสอบเลขที่ใบอนุญาตกับเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง (เช่น ASIC, FCA)
  2. การแยกเงินทุนลูกค้า (Segregated Accounts): โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือจะเก็บเงินทุนของลูกค้าแยกออกจากเงินทุนของบริษัท ซึ่งหมายความว่าเงินของคุณจะปลอดภัยแม้บริษัทจะประสบปัญหา
  3. ประวัติการดำเนินงาน: โบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการมานานหลายปีมักจะมีความมั่นคงและน่าเชื่อถือมากกว่า
  4. โมเดลธุรกิจ (A-Book): การเลือกโบรกเกอร์ A-Book ช่วยลดความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โบรกเกอร์ที่ไม่ดีหาทางเอาเปรียบลูกค้า

Free Swap คืออะไร และมีข้อเสียหรือไม่?

Free Swap หรือ No Swap หมายถึงการที่โบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมดอกเบี้ยข้ามคืนสำหรับการถือสถานะ (Position) เปิดไว้เกินกว่าหนึ่งวัน ข้อดีคือช่วยลดต้นทุนสำหรับเทรดเดอร์ที่ถือออเดอร์นานๆ

ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น: โบรกเกอร์บางรายอาจชดเชยรายได้ที่หายไปจากค่า Swap โดยวิธีอื่น เช่น:

  • สเปรดที่กว้างกว่าบัญชีปกติเล็กน้อย
  • คิดค่าคอมมิชชั่นสูงขึ้น
  • คิดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Administration Fee) หากถือออเดอร์เกินจำนวนวันที่กำหนด (เช่น เกิน 3-5 วัน)

ดังนั้น ควรอ่านเงื่อนไขของบัญชี Free Swap ให้ละเอียดเสมอ

โบรกเกอร์ A-Book ในไทยแตกต่างจากโบรกเกอร์ทั่วไปอย่างไร?

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ในตลาดอาจเป็น Market Maker (B-Book) ซึ่งทำหน้าที่เป็นคู่สัญญากับคุณโดยตรง แต่โบรกเกอร์ A-Book อย่าง Moneta Markets มีความแตกต่างที่สำคัญคือ:

  • ความโปร่งใสของราคา: ราคาที่คุณเห็นมาจากตลาดกลางโดยตรง ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นโดยโบรกเกอร์
  • ไม่มี Requotes: การส่งคำสั่งมักจะรวดเร็วและไม่มีการปฏิเสธราคาบ่อยครั้ง เพราะออเดอร์ถูกส่งไปยังตลาดจริง
  • ผลประโยชน์ที่สอดคล้องกัน: โบรกเกอร์ A-Book ต้องการให้คุณเทรดต่อไปนานๆ และทำกำไรได้ เพราะรายได้ของพวกเขามาจากปริมาณการเทรดของคุณ ไม่ใช่จากการขาดทุนของคุณ

การเลือกโบรกเกอร์ A-Book จึงเหมือนกับการเลือกพันธมิตรที่ต้องการให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาว

ระหว่างบัญชี Standard กับ ECN ควรเลือกแบบไหนเพื่อลดค่าใช้จ่าย?

การเลือกขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ:

  • บัญชี Standard: เหมาะสำหรับมือใหม่หรือผู้ที่เทรดไม่บ่อย มีสเปรดที่กว้างกว่า แต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ต้นทุนทั้งหมดจะรวมอยู่ในสเปรดแล้ว ทำให้คำนวณง่าย
  • บัญชี ECN (Electronic Communication Network): เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์, Scalpers, หรือผู้ที่ใช้ EA (Expert Advisor) มีสเปรดที่แคบมาก (อาจเริ่มที่ 0.0 pips) แต่มีค่าคอมมิชชั่นต่อการเทรด

โดยทั่วไป หากคุณเทรดในปริมาณมากหรือเทรดบ่อยครั้ง บัญชี ECN มักจะมีต้นทุนรวมที่ต่ำกว่าบัญชี Standard

มีโบรกเกอร์ Forex ไหนที่รับฝากถอนผ่านธนาคารไทยโดยตรงและไม่มีค่าธรรมเนียม?

มีโบรกเกอร์ชั้นนำหลายแห่งที่ให้บริการนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เทรดเดอร์ชาวไทย โบรกเกอร์ที่อยู่ในรายชื่อข้างต้นส่วนใหญ่ เช่น Moneta Markets, Exness, และ IC Markets ล้วนรองรับการฝาก-ถอนเงินผ่าน QR Code หรือ Internet Banking ของธนาคารในประเทศไทยโดยตรง และส่วนใหญ

Leave a Reply