โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือในไทย: 10 ตัวเลือกดีที่สุดปี 2025

เหตุใดการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่เชื่อถือได้จึงเป็นก้าวสำคัญสำหรับนักเทรดชาวไทย?

ตลาดฟอเร็กซ์เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้สัมผัสกับศักยภาพการทำกำไรระดับโลก แต่ก่อนจะเริ่มต้น จุดเริ่มต้นที่ตัดสินทิศทางการลงทุนอย่างแท้จริงคือการเลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยที่ยังต้องเผชิญกับข่าวสารเกี่ยวกับ “โบรกเกอร์ปิดตัวหนี” หรือการหลอกลวงผ่านแพลตฟอร์มเทรดที่ไม่มีใบอนุญาต การเลือกพันธมิตรทางการเงินที่ผิดพลาด อาจหมายถึงการสูญเสียเงินทั้งหมดที่คุณออมมาอย่างยากลำบาก

ในปี 2025 ความต้องการโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่โปร่งใสและปลอดภัยยังคงเพิ่มสูงขึ้น บทความนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อช่วยนักเทรดชาวไทยตัดสินใจอย่างมีข้อมูลรองรับ เรานำข้อมูลล่าสุดมาวิเคราะห์อย่างละเอียด พร้อมจัดอันดับ 10 โบรกเกอร์ที่ได้รับการยืนยันจากเกณฑ์คัดกรองเข้มงวด ทั้งด้านการกำกับดูแล ต้นทุนการเทรด แพลตฟอร์ม ความรวดเร็วในการทำธุรกรรม และการบริการลูกค้า เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกบาทที่คุณลงทุนจะถูกปกป้องและใช้ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพประกอบฉากเทรดฟอเร็กซ์ในประเทศไทย

เกณฑ์ประเมินโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ใช้ในการจัดอันดับ 2025

การจัดอันดับไม่ได้ทำขึ้นจากความนิยมเพียงอย่างเดียว แต่เราใช้กรอบการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและโปร่งใส เพื่อให้ผู้อ่านได้ข้อมูลที่วัดผลได้จริงและเปรียบเทียบกันได้อย่างเป็นธรรม ต่อไปนี้คือหัวใจหลักที่เราใช้ประเมินโบรกเกอร์ทุกรายก่อนขึ้นบัญชีรายชื่อ

1. การกำกับดูแลและใบอนุญาต: เข็มทิศของความปลอดภัย

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์เริ่มต้นจากหน่วยงานที่ควบคุมพวกเขา หากบริษัทได้รับอนุญาตจากองค์กรระดับโลก เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ CySEC (ไซปรัส) แปลว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามมาตรการคุ้มครองลูกค้าอย่างเข้มงวด รวมถึงการเก็บเงินลูกค้าแยกจากเงินทุนบริษัท และมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยหากบริษัทล้มละลาย

ในประเทศไทย แม้ ก.ล.ต. จะยังไม่เปิดรับใบอนุญาตโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์สำหรับรายย่อยโดยตรง แต่การเลือกผู้ให้บริการที่มีใบอนุญาตจากประเทศที่มีระบบกำกับดูแลที่เข้มงวด ถือเป็นแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

2. ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่น: ลดต้นทุน หมายถึงเพิ่มผลตอบแทน

สเปรดคือต้นทุนหลักของการเทรด ยิ่งต่ำยิ่งดี โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เปิด-ปิดคำสั่งบ่อย หรือใช้กลยุทธ์สเกลป์ (Scalping) โบรกเกอร์ที่มีสเปรดเฉลี่ยต่ำในคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD และระบุค่าคอมมิชชั่นอย่างชัดเจน โดยไม่แฝงค่าธรรมเนียมแฝง คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในระยะยาว

3. แพลตฟอร์มการเทรด: เครื่องมือที่ทำให้คุณได้เปรียบ

แพลตฟอร์มไม่ใช่แค่หน้าจอแสดงราคา แต่คือศูนย์ควบคุมการตัดสินใจของคุณ โบรกเกอร์ชั้นนำส่วนใหญ่สนับสนุน MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการใช้ EA (Expert Advisor), วิเคราะห์เชิงเทคนิค และปรับแต่งได้สูง

นอกจากนี้ เรายังพิจารณาแพลตฟอร์มที่พัฒนาเองโดยเฉพาะ หากมีจุดเด่น เช่น การเชื่อมต่อกับเครื่องมือวิเคราะห์ชั้นนำอย่าง TradingView หรือให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล รองรับมือถือได้ดี

4. การฝาก-ถอนเงิน: ความเร็วและความสะดวกสำหรับนักเทรดไทย

ความสำคัญของช่องทางการเงินไม่ควรถูกมองข้าม โบรกเกอร์ที่ดีสำหรับผู้ใช้ในไทยต้องรองรับการโอนผ่านธนาคารในประเทศ, QR Payment, และ e-Wallet ยอดนิยม เช่น TrueMoney Wallet หรือ PromptPay ที่ทำให้การทำธุรกรรมเสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาทีโดยไม่ต้องพึ่งพาการโอนเงินระหว่างประเทศที่ช้าและมีค่าธรรมเนียมสูง

5. การสนับสนุนลูกค้า: เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ เขาอยู่ที่นั่นหรือไม่?

ปัญหาไม่เลือกเวลาเกิด ไม่ว่าจะเป็นการล็อกอินไม่ได้ หรือถอนเงินไม่สำเร็จ การมีทีมงานสนับสนุนที่พูดภาษาไทยและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งแชทสด อีเมล และสายด่วน คือข้อได้เปรียบที่ทำให้ความเครียดลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ภาพแสดงโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่น่าเชื่อถือ

ตารางเปรียบเทียบ 10 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำในประเทศไทย ปี 2025

โบรกเกอร์ (Broker) คะแนนรวม หน่วยงานกำกับดูแล สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) เงินฝากขั้นต่ำ รองรับภาษาไทย
IC Markets 9.7/10 ASIC, CySEC, FSA 0.1 pips $200
Moneta Markets 9.5/10 ASIC, FSCA 0.3 pips $50
Exness 9.4/10 FCA, CySEC 0.6 pips $10
Pepperstone 9.2/10 ASIC, FCA, CySEC 0.2 pips $200
XM 9.0/10 ASIC, CySEC, FSC 1.6 pips $5
FP Markets 8.8/10 ASIC, CySEC 0.1 pips $100
Tickmill 8.7/10 FCA, CySEC, FSA 0.1 pips $100
FBS 8.5/10 ASIC, CySEC, IFSC 0.9 pips $1
OctaFX 8.3/10 CySEC, MISA 0.7 pips $25
HFM 8.2/10 FCA, CySEC, DFSA 1.2 pips $5

หมายเหตุ: ค่าสเปรดเป็นค่าเฉลี่ยในภาวะตลาดปกติ และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความผันผวนของตลาด

รีวิวเชิงลึก: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในปี 2025

1. IC Markets: เลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านสเกลป์

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่เปิดคำสั่งหลายครั้งต่อวัน IC Markets คือคำตอบที่แท้จริง ด้วยตำแหน่งผู้นำในกลุ่มโบรกเกอร์แบบ True ECN บริษัทนี้ให้สเปรดที่ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread ที่เริ่มต้นจาก 0.0 pips และคิดค่าคอมมิชชั่นต่อ lot ที่แข่งขันได้

นอกจากนี้ ยังได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC และ CySEC ซึ่งเป็นการรับประกันว่าเงินทุนของคุณจะถูกแยกเก็บอย่างปลอดภัย แพลตฟอร์มของ IC Markets รองรับทั้ง MT4, MT5 และ cTrader พร้อมความเร็วในการส่งคำสั่งที่ต่ำมาก เหมาะสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง

2. Moneta Markets: สมดุลระหว่างความน่าเชื่อถือและประสบการณ์การใช้งาน

สำหรับนักลงทุนชาวไทยที่มองหาตัวเลือกที่ครอบคลุมและน่าไว้วางใจ Moneta Markets คือหนึ่งในโบรกเกอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดแข็งหลายด้านที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

ความโปร่งใสและปลอดภัย: ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้) ซึ่งบังคับให้โบรกเกอร์ต้องเก็บเงินลูกค้าในบัญชีแยกเดี่ยว (Segregated Accounts) และรายงานการเงินอย่างสม่ำเสมอ

แพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย: นอกเหนือจาก MT4 และ MT5 แล้ว Moneta Markets ยังให้บริการแพลตฟอร์ม Pro Trader ที่ใช้เทคโนโลยีจาก TradingView โดยตรง ซึ่งมีชื่อเสียงด้านกราฟที่แม่นยำ ตัวเลือกอินดิเคเตอร์หลากหลาย และอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย แม้ผู้เริ่มต้นก็สามารถเรียนรู้ได้เร็ว

บริการลูกค้าที่เข้าใจนักลงทุนไทย: มีทีมสนับสนุนภาษาไทยที่พร้อมตอบคำถามและแก้ปัญหาได้ทันที ไม่ว่าจะผ่านแชทสด อีเมล หรือโทรศัพท์

โปรโมชั่นที่ตอบโจทย์: มักมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ เช่น โบนัสเงินฝาก หรือกิจกรรมแข่งขันเทรด ซึ่งสามารถเพิ่มทุนเริ่มต้นได้ แต่ควรอ่านเงื่อนไขให้เข้าใจก่อนเข้าร่วม

3. Exness: ความเร็วในการทำธุรกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้

Exness กลายเป็นที่ชื่นชอบของนักเทรดไทยไม่ใช่เพราะชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่เพราะระบบการเงินที่รวดเร็วสุดขีด โดยเฉพาะการถอนเงินที่สามารถทำได้ภายในไม่กี่นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องสูง

อีกหนึ่งจุดเด่นคือการเสนอเลเวอเรจที่สูงมาก บางบัญชียอมให้เลเวอเรจไม่จำกัดในสภาวะตลาดปกติ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจความเสี่ยงที่ตามมา ด้วยการได้รับอนุญาตจาก FCA และ CySEC Exness จึงยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยไว้ได้แม้เน้นการบริการที่คล่องตัว

4. Pepperstone: ความเสถียรและความเร็วในการดำเนินคำสั่ง

โบรกเกอร์จากออสเตรเลียรายนี้มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย รองรับคำสั่งจำนวนมากต่อวินาที ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์อัลกอริธึมและผู้ใช้ EA ที่ต้องการความเร็วสูงสุด สเปรดเฉลี่ยต่ำและรองรับ MT4, MT5, cTrader รวมถึง TradingView โดยตรง

5. XM: เงินฝากต่ำ แต่บริการครบวงจร

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีทุนจำกัด เนื่องจากใช้เงินฝากขั้นต่ำเพียง 5 ดอลลาร์ แต่ยังคงให้บริการในระดับสากลภายใต้การกำกับดูแลจาก ASIC และ CySEC มีโบนัสต้อนรับ และศูนย์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมภาษาไทย

6. FP Markets และ Tickmill: ทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสเปรดต่ำ

ทั้งสองโบรกเกอร์นี้เน้นบริการแบบ ECN ให้สเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pips และเหมาะกับผู้ที่เทรดปริมาณมาก แม้เงินฝากขั้นต่ำจะสูงกว่าบางราย แต่คุณภาพของการดำเนินคำสั่งและการแยกบัญชีทำให้คุ้มค่าในระยะยาว

7. FBS, OctaFX และ HFM: ทางเลือกที่เข้าถึงง่าย

ทั้งสามโบรกเกอร์นี้มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะ FBS ที่มีเงินฝากขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์ และแคมเปญการตลาดที่เข้าถึงง่าย อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขการถอนและโบนัสให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

วิธีตรวจสอบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่หลอกลวง: ป้องกันตัวเองให้ทันในปี 2025

ตรวจสอบใบอนุญาตอย่างละเอียด อย่าเชื่อแค่รูปภาพบนเว็บไซต์

หลายโบรกเกอร์ปลอมจะนำโลโก้ของ FCA หรือ ASIC ไปวางไว้บนเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต วิธีที่ถูกต้องคือคุณต้องไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหน่วยงาน เช่น FCA Financial Services Register แล้วค้นหาชื่อบริษัทหรือเลขที่ใบอนุญาต หากไม่พบ แสดงว่าบริการนั้นไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย

ระวังคำสัญญาผลตอบแทนเกินจริง

ไม่มีใครสามารถรับประกันผลกำไรในตลาดที่ผันผวนได้ หากคุณเห็นโฆษณาที่กล่าวว่า “ทำกำไร 50% ต่อเดือน” หรือ “ระบบเทรดอัตโนมัติไร้ความเสี่ยง” นั่นคือสัญญาณเตือนภัยชัดเจน โบรกเกอร์ที่ดีจะให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่สร้างความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล

อ่านรีวิวจากหลายแหล่ง อย่าเชื่อเพียงที่เดียว

เว็บไซต์อย่าง Trustpilot หรือฟอรั่ม Reddit มักมีรีวิวจากผู้ใช้จริง แต่ควรสังเกตแนวโน้มโดยรวม ไม่ใช่แค่รีวิวเดี่ยวๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการถอนเงิน หากมีผู้ใช้หลายคนรายงานปัญหาเดียวกัน ควรพิจารณาใหม่

ทดลองด้วยเงินจำนวนน้อยก่อนลงทุนจริง

ไม่ว่าโบรกเกอร์จะดูน่าเชื่อถือแค่ไหน ให้เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย ทดลองเปิดคำสั่ง แล้วลองถอนเงินกลับเข้าบัญชีธนาคารไทย หากกระบวนการรวดเร็วและไม่มีข้ออ้าง แสดงว่าเป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือได้

สรุป: โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด คือโบรกเกอร์ที่เหมาะกับคุณ

การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่คือการจับคู่ระหว่างสไตล์การเทรด ระดับประสบการณ์ และความต้องการเฉพาะตัวของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เริ่มต้นที่ต้องการแพลตฟอร์มใช้ง่าย หรือเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการต้นทุนต่ำและระบบ ECN ต้องมีตัวเลือกที่ตอบโจทย์

สิ่งที่ควรเน้นที่สุดคือความปลอดภัยของเงินทุน ดังนั้นให้ให้ความสำคัญกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานระดับโลก และมีการแยกบัญชีลูกค้าอย่างชัดเจน

สำหรับนักเทรดชาวไทยในปี 2025 Moneta Markets ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด ด้วยการรวมเอาความน่าเชื่อถือจาก ASIC, แพลตฟอร์ม Pro Trader ที่ใช้งานง่าย, การสนับสนุนภาษาไทย และเงินฝากขั้นต่ำที่เอื้อต่อการเริ่มต้น เราขอแนะนำให้พิจารณาอย่างใกล้ชิดเป็นอันดับต้นๆ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถาม 1: การเทรด Forex ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?

ในปัจจุบัน การเทรดฟอเร็กซ์สำหรับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง และยังไม่มีโบรกเกอร์รายใดที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ของไทย อย่างไรก็ตาม การเทรดผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ (เช่น ASIC, FCA) ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย นักลงทุนชาวไทยจำนวนมากนิยมใช้วิธีนี้เพื่อเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์โลก

คำถาม 2: โบรกเกอร์ forex ที่ ก.ล.ต. รับรอง มีจริงหรือไม่?

ณ ปี 2025 ยังไม่มีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ได้รับการรับรองโดยตรงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของประเทศไทย ตามข้อมูลที่ปรากฏบน เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ได้มีการเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุนในฟอเร็กซ์กับบริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลที่เข้มงวดจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

คำถาม 3: เงินทุนของฉันปลอดภัยแค่ไหนกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ?

ความปลอดภัยของเงินทุนขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลของโบรกเกอร์นั้นๆ โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เช่น Moneta Markets หรือ IC Markets ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC หรือ FCA จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด ได้แก่:

  • การแยกบัญชีเงินทุนลูกค้า (Segregated Accounts): เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บแยกออกจากเงินทุนของบริษัทโดยสิ้นเชิง
  • การคุ้มครองเงินฝาก (Compensation Schemes): ในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย ลูกค้าอาจได้รับการชดเชยจากกองทุนคุ้มครองนักลงทุน (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละหน่วยงานกำกับ)

คำถาม 4: ฉันควรเริ่มต้นด้วยเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่?

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีเงินฝากขั้นต่ำที่ค่อนข้างต่ำ (ตั้งแต่ $10 – $200) อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้ฝากเงินในจำนวนที่คุณพร้อมจะเสียได้และไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การเริ่มต้นด้วยเงินประมาณ $100 – $300 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงและการเทรดด้วยเงินจริงในขนาดล็อตที่เล็ก

คำถาม 5: โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือรายไหนมีแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับมือใหม่ในไทย?

สำหรับมือใหม่ แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่ครบครันเป็นสิ่งสำคัญมาก ในบรรดาโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ Moneta Markets เป็นตัวเลือกที่โดดเด่น เนื่องจากมีแพลตฟอร์ม Pro Trader ที่ใช้ระบบของ TradingView ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกในด้านความง่ายในการใช้งานและเครื่องมือกราฟที่ทรงพลัง ทำให้มือใหม่สามารถเรียนรู้และวิเคราะห์กราฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ยังคงมีตัวเลือกมาตรฐานอย่าง MT4 และ MT5 ให้สำหรับผู้ที่คุ้นเคยอยู่แล้ว

คำถาม 6: โบรกเกอร์ Forex ไหนมีค่าสเปรดต่ำที่สุดในประเทศไทย?

โดยทั่วไปแล้ว โบรกเกอร์ประเภท ECN หรือ Raw Spread จะมีค่าสเปรดที่ต่ำที่สุด เช่น IC Markets, Pepperstone และ Tickmill ซึ่งมีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหาก เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดสูง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาต้นทุนรวม (สเปรด + คอมมิชชั่น) และเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ที่มีบัญชี Standard ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นแต่มีสเปรดสูงกว่าเล็กน้อย เช่น Moneta Markets หรือ Exness เพื่อเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณที่สุด

คำถาม 7: วิธีการฝากและถอนเงินที่สะดวกที่สุดสำหรับคนไทยคืออะไร?

วิธีการที่สะดวกและเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับคนไทยคือ “การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ” (Local Bank Transfer) หรือ QR Code Payment โบรกเกอร์ชั้นนำส่วนใหญ่ เช่น Exness และ Moneta Markets จะมีระบบที่รองรับการทำธุรกรรมผ่านธนาคารไทยโดยตรง ซึ่งทำให้การฝาก-ถอนเงินเป็นไปอย่างรวดเร็ว (บางครั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที) และมีค่าธรรมเนียมต่ำหรือไม่มีเลยเมื่อเทียบกับการโอนเงินระหว่างประเทศแบบดั้งเดิม

Leave a Reply