เพื่อนผม/ดิฉัน เพิ่งมาถามเรื่องหุ้นฮ่องกง หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) ว่าช่วงนี้เป็นยังไง เห็นข่าวตลาดหุ้นทั่วโลกดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ มันน่ากังวลขนาดไหนกันเชียว? ในฐานะคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้ เลยอยากจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) และสถานการณ์ตลาดตอนนี้แบบง่ายๆ สไตล์คนคุยกันครับ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) กันก่อน มันไม่ใช่บริษัท แต่เป็นเหมือน ‘ตัวแทน’ หรือ ‘ดัชนีวัดไข้’ ของตลาดหุ้นฮ่องกงครับ เขาเลือกเอาบริษัทใหญ่ๆ ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) เยอะๆ มา 40 บริษัท ซึ่งรวมๆ กันแล้วครอบคลุมมูลค่าตลาดหุ้นฮ่องกงไปประมาณ 65% เลยทีเดียว แบ่งเป็น 4 หมวดธุรกิจหลักๆ ถ้าดัชนีนี้ขึ้น ก็แสดงว่าหุ้นใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ในฮ่องกงกำลังไปได้ดี ถ้าดัชนีลง ก็แปลว่าหุ้นใหญ่ๆ ส่วนใหญ่กำลังเจอแรงขายครับ ดัชนีนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1969 โดย สแตนลีย์ กวน (Stanley Kwan) และดูแลโดยบริษัทดัชนีฮั่งเส็ง จำกัด (Hang Seng Indexes Company Limited) ซึ่งก็เป็นบริษัทลูกของธนาคารฮั่งเส็ง (Hang Seng Bank) ที่มี เอชเอสบีซี (HSBC) ถือหุ้นใหญ่ ก็ถือว่ามีประวัติยาวนานและน่าเชื่อถือในฐานะตัวแทนตลาดหุ้นฮ่องกงครับ
แล้วสถานการณ์ตอนนี้ของ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) เป็นยังไงล่ะ? ต้องบอกว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกดูจะพร้อมใจกัน ‘ซึม’ ลงไปหน่อยครับ ต้นตอใหญ่ๆ เลยมาจากความกังวลเรื่อง ‘อัตราดอกเบี้ย’ (interest rates) โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่นักลงทุนกำลังจับตารายงานการประชุมล่าสุดของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve หรือ Fed) อย่างใจจดใจจ่อ เพราะสัญญาณหลายอย่างบ่งชี้ว่า Fed อาจจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนานกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ความกังวลนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีวันที่ปรับตัวลงหนักที่สุดในรอบหลายเดือน และแน่นอนว่า ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียก็ปรับตัวลดลงตามไปด้วยครับ

สำหรับ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) เองก็เจอแรงกดดันหลายทางครับ นอกจากจะได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศตลาดโลกแล้ว ปัจจัยเฉพาะตัวของฮ่องกงและจีนก็มีผลไม่น้อย ล่าสุด ดัชนี หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) ก็ปรับตัวลงมาใกล้ระดับที่เรียกว่า ‘Correction’ (การปรับฐานราคาลงอย่างน้อย 10% จากจุดสูงสุด) นั่นเป็นเพราะความกังวลเรื่อง ‘ภูมิรัฐศาสตร์’ (geo-politics) และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจจีน แม้จะมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัว แต่ก็ยังมีคำถามว่าการฟื้นตัวนั้นจะแข็งแกร่งและยั่งยืนตามที่ตลาดคาดหวังไว้แค่ไหน บวกกับปัจจัยในประเทศฮ่องกงเองก็มี เช่น เรื่อง ‘งบประมาณ’ (budget) ล่าสุดที่หลายคนมองว่ายังขาดแรงจูงใจที่ชัดเจนพอสำหรับดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาครับ
ถ้าลองย้อนดูประวัติศาสตร์นิดหน่อย อย่างช่วงปี 2019 ที่มีประเด็น ‘การเจรจาการค้า’ (trade negotiation) และ ‘มาตรการภาษี’ (tariffs) ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ตลาดหุ้นฮ่องกงก็อ่อนไหวกับข่าวสารพวกนี้มากๆ เลยครับ แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจนี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อภาวะตลาดหุ้นฮ่องกงเสมอมา และอาจจะเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาดูต่อไปในอนาคตด้วย
มาเจาะลึกตัวเลข หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) กันหน่อยดีกว่าครับ ตามข้อมูลล่าสุด ณ ช่วงเวลานี้ (ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วบ้างเมื่อคุณได้อ่าน) มูลค่าปัจจุบันของดัชนีอยู่ที่ราวๆ 23,892 จุด ปรับลดลงไปเล็กน้อยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถ้าเทียบกับ ‘ราคาสูงสุดตลอดกาล’ (All-Time High) ที่เคยทำไว้สูงถึง 33,484 จุด เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2018 หรือ ‘ราคาต่ำสุดตลอดกาล’ (All-Time Low) ที่ 1,894 จุด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1987 ก็จะเห็นภาพการเดินทางของดัชนีนี้ครับ ลองดูผลงานช่วงสั้นๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนียังติดลบเล็กน้อย แต่ในรอบเดือนที่ผ่านมายังบวกได้ราวๆ 2.47% ส่วนในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดี โดยบวกไปกว่า 31.97% ครับ

ใครคือพี่ใหญ่สุด 3 อันดับแรกในดัชนี หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) (วัดตามมูลค่าตลาด)? คือ TENCENT HOLDINGS LIMITED (700), INDUSTRIAL & COMMERCIAL BK OF CHINA (1398) และ ALIBABA GROUP HOLDING LTD (9988) ส่วนตัวไหนที่ราคา ‘พุ่ง’ สุดๆ ในรอบปีที่ผ่านมา (วัดตามผลงาน) ก็คือ HKEX:1810 ที่บวกไปกว่า 200% โอ้โห! ในทางกลับกัน ตัวไหนที่ ‘ร่วง’ หนักสุดในรอบปีก็คือ HKEX:968 ที่ติดลบไปกว่า 43% ครับ ตัวเลขพวกนี้แสดงให้เห็นถึงความผันผวนและความแตกต่างของผลตอบแทนในแต่ละหุ้น แม้จะอยู่ในดัชนีเดียวกัน
ถ้าอยากลงทุนใน หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) ทำได้เลยไหม? คำตอบคือ ‘ไม่ได้ซื้อดัชนีตรงๆ’ นะครับ เหมือนเราซื้อดัชนี SET50 ในไทยไม่ได้ แต่มีวิธีอื่น เช่น ลงทุนผ่าน ‘ฟิวเจอร์ส’ (Futures) ที่อ้างอิงดัชนีโดยตรง หรือลงทุนใน ‘กองทุน’ (Funds) ประเภท Exchange Traded Funds (ETFs) หรือกองทุนรวมอื่นๆ ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนี้ หรือจะเลือกซื้อ ‘หุ้นรายตัว’ (constituent stocks) ที่อยู่ในดัชนีเลยก็ได้ครับ แพลตฟอร์มการลงทุนต่างประเทศบางแห่ง เช่น Moneta Markets ก็มีเครื่องมือเหล่านี้ให้เลือกซื้อขายครับ
สัญญาณทางเทคนิคของ หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) ตอนนี้ก็บอกว่าตลาดอยู่ในภาวะ ‘เป็นกลาง’ (neutral) นะครับ ถึงแม้จะมีสัญญาณที่บอกว่ามีทั้งแรงขายและแรงซื้อผสมๆ กันอยู่ ก็เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะไปทางไหนต่อดี
อีกเรื่องที่น่าสนใจในฮ่องกงและอาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในระยะยาวคือเรื่อง ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ (digital assets) ครับ ตอนนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฮ่องกง (Securities and Futures Commission – SFC) กำลังพิจารณาที่จะอนุญาตให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ‘คริปโทเคอร์เรนซี’ (cryptocurrency) สามารถให้บริการแก่นักลงทุนรายย่อยได้ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง ก็น่าจะทำให้ฮ่องกงกลับมามีบทบาทในฐานะศูนย์กลางทางการเงินที่เปิดกว้างต่อสินทรัพย์รูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น
สรุปแล้ว หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) ช่วงนี้ก็เจอทั้งมรสุมจากตลาดโลกและปัจจัยเฉพาะตัวครับ นักลงทุนที่สนใจคงต้องจับตาดูหลายอย่าง ทั้งทิศทาง ‘อัตราดอกเบี้ย’ ของธนาคารกลางใหญ่ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สถานการณ์เศรษฐกิจจีน และนโยบายต่างๆ จากฮ่องกงเอง รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยภายนอกสำคัญครับ ตลาดหุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) มีความผันผวนในตัวของมันเอง เห็นได้จากผลตอบแทนของหุ้นแต่ละตัวที่แตกต่างกันมาก
⚠️ การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงนะครับ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่มีปัจจัยซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็น หุ้นฮั่งเสง (Hang Seng Index) หรือตลาดอื่นๆ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจเครื่องมือการลงทุน และประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ก่อนตัดสินใจเสมอครับ หากสภาพคล่องทางการเงินของคุณไม่ได้สูงมากนัก ควรประเมินความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุนของตัวเองอย่างถี่ถ้วนก่อนนะครับ/คะ อย่าเพิ่งรีบตามกระแสโดยที่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ครับ