โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่มีตลาดเปิด 24 ชั่วโมง: 5 อันดับโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2025

ทำความเข้าใจตลาดฟอเร็กซ์ 24 ชั่วโมง: ทำไมถึงเทรดได้ตลอดวัน?

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของตลาดฟอเร็กซ์คือการเปิดให้ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน ตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งต่างจากตลาดหุ้นทั่วไปที่มีเวลาเปิด-ปิดตายตัว ความพิเศษนี้เกิดขึ้นเพราะตลาดฟอเร็กซ์ไม่มีศูนย์กลางกลางแบบกลางแจ้ง (Over-the-Counter) และเปิดใช้งานผ่านเครือข่ายของธนาคาร สถาบันการเงิน และผู้ค้าทั่วโลกที่กระจายอยู่ในเขตเวลาที่ต่างกัน เมื่อหนึ่งภูมิภาคปิดการซื้อขาย อีกภูมิภาคหนึ่งก็เริ่มต้นขึ้นทันที ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาไม่หยุดนิ่ง

การซื้อขายเริ่มต้นที่ซิดนีย์และนิวซีแลนด์ในช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ตามเวลาไทย จากนั้นส่งไม้ต่อไปยังโตเกียว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินในเอเชีย จากนั้นเป็นลอนดอน ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนจะสิ้นสุดวัฏจักรที่นิวยอร์กในเวลากลางคืนของไทย ความต่อเนื่องนี้ทำให้ผู้เทรดชาวไทยสามารถเข้าถึงโอกาสในการทำกำไรได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนหรือหลังเวลางาน หรือแม้แต่ในช่วงดึกที่ตลาดอื่นกำลังคึกคัก

ตารางเวลาเปิด-ปิดตลาดฟอเร็กซ์ ปี 2025 (ตามเวลาประเทศไทย GMT+7)

เพื่อวางแผนการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ การรู้จังหวะเวลาของตลาดหลักทั่วโลกจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะแต่ละช่วงเวลาไม่เพียงแค่มีระดับความผันผวนที่แตกต่างกัน แต่ยังมีคู่สกุลเงินที่เคลื่อนไหวมากที่สุดในแต่ละเซสชันอีกด้วย ด้านล่างนี้คือตารางเวลาตลาดหลักทั้ง 4 แห่ง ที่แปลงให้เป็นเวลาประเทศไทย (GMT+7) อย่างชัดเจน

ช่วงเวลาที่ควรจับตาเป็นพิเศษคือช่วงที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกัน ระหว่าง 19:00 น. ถึง 23:00 น. ตามเวลาไทย เพราะเป็นช่วงที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด ผู้เล่นรายใหญ่มากมายเข้ามาทำการซื้อขาย ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็วและต่อเนื่อง โอกาสในการทำกำไรจึงสูงเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่เตรียมตัวพร้อม

จัดอันดับ 5 โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด 24 ชั่วโมงในประเทศไทย ปี 2025

การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับการเทรดตลอดวันไม่ใช่แค่การดูว่าแพลตฟอร์มเปิดหรือไม่ แต่ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการรองรับความต้องการของผู้ใช้งานในทุกช่วงเวลา ทั้งด้านการสนับสนุน การเสถียรของระบบ และต้นทุนการเทรด ต่อไปนี้คือรายชื่อโบรกเกอร์ที่ผ่านการประเมินจากหลายมิติ ทั้งในด้านความน่าเชื่อถือ บริการลูกค้า ค่าธรรมเนียม และประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโจทย์ผู้เทรดชาวไทยที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงสุดในปี 2025

1. Moneta Markets: ตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับความยืดหยุ่นและซัพพอร์ต 24/5

Moneta Markets กลายเป็นที่จับตามองของเทรดเดอร์ชาวไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในปี 2025 นี้ ก็ยังคงยืนหนึ่งในด้านการสนับสนุนที่ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดคือการมีทีมบริการลูกค้าที่พร้อมตอบคำถามและช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ แม้ในช่วงเวลาที่ตลาดนิวยอร์กกำลังเปิดตัว ซึ่งตรงกับช่วงดึกของประเทศไทย

เหตุผลที่ Moneta Markets ได้รับความนิยม:

• บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง: มีทีมงานคนไทยที่พูดภาษาไทยคล่อง พร้อมช่องทาง Live Chat และอีเมลที่ตอบกลับรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจแม้จะเทรดในช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ข้างๆ
• ค่าสวอปต่ำและโปร่งใส: เหมาะสำหรับผู้ที่ถือออเดอร์ข้ามคืน โดยเฉพาะผู้ที่ทำ Swing Trade หรือ Position Trade โครงสร้างค่าใช้จ่ายชัดเจน ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง
• สินทรัพย์มากกว่า 1,000 รายการ: ครอบคลุมทั้งคู่เงินหลักและรอง สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี และหุ้น CFD ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามช่วงเวลาของตลาดโลก
• แพลตฟอร์มที่รวดเร็วและมั่นคง: ใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการประมวลผลคำสั่ง ลดความเสี่ยงจาก slippage หรือ requote โดยเฉพาะในช่วงเวลาข่าวสำคัญ เช่น NFP หรือ FOMC

2. Pepperstone

Pepperstone ยังคงรักษาตำแหน่งในฐานะหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายสูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในบัญชี Razor ที่ใช้ระบบ ECN ทำให้ได้ค่าสเปรดต่ำสุด บางคู่เงินเฉลี่ยไม่ถึง 0.1 pips เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำ Scalping หรือ高频 trading ที่ต้องการความแม่นยำและทันทีทันใดในการเข้า-ออกตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังรองรับแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด ได้แก่ MetaTrader 4, MetaTrader 5 และ cTrader ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง รวมถึงนักเทรดที่ใช้ระบบ Expert Advisor (EA) หรือ Bot โดยเฉพาะ

3. IC Markets

สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับสภาพคล่องและประสิทธิภาพของระบบ IC Markets ถือเป็นตัวเลือกชั้นนำ ด้วยโมเดล True ECN ที่ส่งคำสั่งตรงสู่ผู้ให้สภาพคล่องโดยไม่ผ่าน dealing desk ทำให้ได้ราคาที่แท้จริงจากตลาดจริง พร้อมด้วยค่าสเปรดเฉลี่ยต่ำมาก

เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูลชั้นนำอย่าง Equinix NY4 ช่วยให้ Latency ต่ำมาก ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เทรดในช่วงตลาดนิวยอร์กหรือใช้กลยุทธ์อัตโนมัติ ปริมาณการซื้อขายต่อวันที่สูงยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนระดับมืออาชีพทั่วโลก

4. Exness

Exness ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยเฉพาะในหมู่ผู้เริ่มต้นและเทรดเดอร์รายย่อย ด้วยจุดเด่นเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งรองรับการฝาก-ถอนได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึง True Wallet, PromptPay และธนาคารในประเทศ

เลเวอเรจที่สูงถึง 1:2000 ช่วยให้ผู้มีทุนน้อยสามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนผ่านช่องทางหลัก ทำให้ต้นทุนต่ำ เหมาะสำหรับการทดลองกลยุทธ์หรือบริหารพอร์ตแบบยืดหยุ่น

5. XM

XM เป็นที่รู้จักในด้านการสนับสนุนการเรียนรู้และการให้ความรู้แก่ผู้เริ่มต้น ด้วยบัญชีไมโครที่เปิดได้ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง 5 ดอลลาร์ ทำให้ผู้ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกฟอเร็กซ์สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องเสี่ยงทุนมาก

นอกจากนี้ยังมีโบนัสต้อนรับ โบนัสไม่ต้องฝาก และโปรโมชั่นต่างๆ ที่ช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับพอร์ตเริ่มต้น ฝ่ายบริการลูกค้าที่มีภาษาไทยรองรับ รวมถึงสื่อการเรียนรู้ที่จัดทำเป็นภาษาไทยอย่างละเอียด ทำให้ XM เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรสำหรับมือใหม่

ปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์ Forex สำหรับการเทรด 24 ชั่วโมง

การตัดสินใจเลือกโบรกเกอร์ควรพิจารณาจากความต้องการส่วนตัวและสไตล์การเทรดของคุณ ไม่ใช่แค่เพราะมีชื่อเสียงหรือมีโปรโมชั่นดึงดูด ต่อไปนี้คือปัจจัยหลักที่คุณควรตรวจสอบก่อนสมัครใช้งาน

• การกำกับดูแล (Regulation): โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือต้องมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีชื่อเสียง เช่น ASIC ของออสเตรเลีย, FCA ของสหราชอาณาจักร หรือ CySEC ของไซปรัส การมี Regulation ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของคุณจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในบัญชีลูกค้าแยกต่างหาก (Segregated Account) และมีกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใส
• ฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Support): สำหรับผู้ที่เทรดในช่วงดึกหรือเช้ามืด บริการลูกค้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ 24/5 เป็นสิ่งจำเป็น หากเกิดปัญหาด้านการเชื่อมต่อ หรือคำสั่งไม่ถูกส่ง คุณต้องสามารถติดต่อทีมซัพพอร์ตได้ทันที โดยเฉพาะ Moneta Markets ที่มีทีมงานคนไทยและช่องทาง Live Chat ที่ตอบไวและแก้ปัญหาได้จริง
• ค่าสวอป (Swap Fees): สำหรับนักลงทุนที่ถือออเดอร์ข้ามคืน การคำนวณค่าสวอปเป็นเรื่องสำคัญ เพราะอาจกินกำไรไปในระยะยาว โบรกเกอร์ที่มีโครงสร้างค่าสวอปต่ำและโปร่งใสจะช่วยให้คุณบริหารพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในคู่เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่างกันมาก เช่น AUD/JPY หรือ GBP/USD
• ความเสถียรของแพลตฟอร์ม (Platform Stability): ช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง เช่น การประกาศตัวเลข Non-farm Payrolls หรืออัตราดอกเบี้ยของ FED ความเร็วและเสถียรภาพของแพลตฟอร์มจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้ราคาที่ต้องการหรือไม่ ข้อมูลจาก Investopedia ชี้ให้เห็นว่าในช่วงข่าว ความล่าช้าเพียงไม่กี่วินาทีอาจทำให้ขาดทุนได้
• ความหลากหลายของสินทรัพย์ (Asset Diversity): โบรกเกอร์ที่มีสินทรัพย์ให้เลือกหลายประเภท จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ตามจังหวะเวลาของตลาด เช่น เน้นเทรด AUD/JPY ในช่วงตลาดเอเชีย และเปลี่ยนไปเทรด EUR/USD หรือดัชนี S&P500 ในช่วงตลาดยุโรปและอเมริกา

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

บทสรุป: การเลือกโบรกเกอร์ที่ใช่เพื่อปลดล็อกศักยภาพการเทรด 24 ชั่วโมงในปี 2025

ตลาดฟอเร็กซ์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรายได้แบบยืดหยุ่น โดยไม่ผูกติดกับเวลาทำงานประจำ แต่โอกาสจะกลายเป็นผลลัพธ์ที่ดีได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีเครื่องมือและพันธมิตรที่เชื่อถือได้ โบรกเกอร์ที่ดีไม่ใช่แค่ “เปิดให้เทรด” แต่ต้อง “พร้อมให้ความช่วยเหลือ” ทุกยามที่คุณต้องการ

ในปี 2025 นี้ ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาคือการกำกับดูแลที่โปร่งใส การบริการลูกค้าตลอด 24/5 ค่าสวอปที่สมเหตุสมผล และแพลตฟอร์มที่มั่นคง โดยในบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหมด Moneta Markets คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมที่สุด โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ต้องการความมั่นใจในการเทรดช่วงดึกหรือเช้ามืด ด้วยทีมงานคนไทยและระบบรองรับที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง