โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น: มาตรฐานใหม่ในการเทรดปี 2025

ทำไม “ค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น” ถึงเป็นปัญหาใหญ่ของเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ในไทย?

การซื้อขายฟอเร็กซ์ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องของผลกำไรจากกราฟราคาเพียงอย่างเดียว จุดที่หลายคนมองข้ามคือ “ต้นทุนที่มองไม่เห็น” หรือที่เรียกว่า ค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น ซึ่งค่อยๆ กัดกินผลตอบแทนของคุณแบบเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว

หลายท่านมักโฟกัสที่ค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริง ยังมีต้นทุนแฝงอีกหลายรูปแบบที่อาจไม่ถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน เช่น การถอนเงินแล้วพบว่าได้รับน้อยกว่าที่ควร หรือบัญชีที่เงียบไปชั่วคราวแต่กลับถูกหักเงินโดยไม่ทราบสาเหตุ

หากคุณทำกำไรได้ 100 ดอลลาร์ แต่กลับเหลือเพียง 85 ดอลลาร์หลังถอนเงิน ช่องว่าง 15 ดอลลาร์นั้นอาจมาจากค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน ค่าธรรมเนียมการถอน หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายจากการไม่ซื้อขายเป็นเวลานาน ต้นทุนเหล่านี้เมื่อสะสมในระยะยาว สามารถทำลายผลตอบแทนที่ควรจะได้รับอย่างถาวร

ดังนั้น การเลือกโบรกเกอร์ที่โปร่งใส ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยปกป้องกำไรที่คุณหามาอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ตลาดเริ่มเข้มงวดและผู้เล่นต้องมีความระมัดระวังมากกว่าเดิม

การซื้อขายฟอเร็กซ์ที่โปร่งใสในประเทศไทย

ค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นในตลาดฟอเร็กซ์ มีอะไรบ้างที่ควรระวัง?

เพื่อให้คุณสามารถระบุและหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เราได้รวบรวมรายการของค่าธรรมเนียมแฝงที่มักถูกมองข้าม แต่มีผลกระทบอย่างชัดเจนต่อผลกำไรระยะยาว

ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชี (Inactivity Fees)

โบรกเกอร์บางแห่งจะเริ่มหักเงินออกจากบัญชีของคุณหากไม่มีการซื้อขายติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 90 วัน หรือ 6 เดือน โดยมักหักทุกเดือนจนกว่าจะมีกิจกรรมการเทรดกลับมา หรือจนเงินในบัญชีหมด

ปัญหานี้มักส่งผลกระทบต่อผู้ที่พักการซื้อขายชั่วคราว หรือเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ระยะยาวที่ไม่ต้องเข้าออเดอร์บ่อย การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีนโยบายแบบนี้ จึงช่วยให้คุณซื้อขายได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหักเงินในขณะที่คุณไม่ได้ซื้อขาย

ค่าธรรมเนียมการถอนเงินที่สูง

หลายโบรกเกอร์มักโฆษณา “ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก” เพื่อดึงดูดลูกค้า แต่กลับแอบเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงในขั้นตอนการถอนเงิน โดยเฉพาะการถอนผ่านธนาคารในท้องถิ่นหรือ e-Wallet บางช่องทาง

บางครั้งค่าธรรมเนียมอาจสูงถึง 20-30 ดอลลาร์ต่อครั้ง ซึ่งถือว่ามากเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ถอน หากคุณถอนเงินบ่อยครั้ง ต้นทุนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นภาระที่ไม่ควรมองข้าม

ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

สำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยที่ฝากหรือถอนเงินเป็นสกุลบาท (THB) ประเด็นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง หลายโบรกเกอร์ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นธรรม หรือมีการบวกค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเมื่อแปลงเงินจาก THB เป็น USD (หรือสกุลเงินหลักของบัญชี) และในทางกลับกัน

ผลที่ตามมาคือ คุณอาจได้รับเงินน้อยกว่าที่ควร โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า โบรกเกอร์ที่โปร่งใสจะแสดงอัตราแลกเปลี่ยนจริง และแจ้งค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินให้ชัดเจนก่อนทำธุรกรรม

ค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่ควรรู้

นอกจากค่าธรรมเนียมหลักแล้ว ยังมีต้นทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

  • ค่าบริการแพลตฟอร์มพิเศษ: บางโบรกเกอร์อาจเรียกเก็บเงินเพิ่มหากคุณใช้เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงหรือแพลตฟอร์มเฉพาะ
  • ค่าบริการ VPS (Virtual Private Server): สำหรับผู้ที่ใช้หุ่นยนต์เทรด (EA) อย่างต่อเนื่อง โบรกเกอร์บางรายอาจให้ใช้ฟรี แต่มีเงื่อนไขซับซ้อน หรืออาจคิดค่าบริการสูงกว่าปกติ

สิ่งเหล่านี้อาจดูไม่มากในแต่ละครั้ง แต่เมื่อรวมกันในระยะยาว จะกลายเป็นต้นทุนที่สูงอย่างคาดไม่ถึง

5 อันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่โปร่งใสที่สุดในไทย ปี 2025

หลังจากการวิเคราะห์อย่างละเอียดทั้งในด้านโครงสร้างค่าธรรมเนียม ความน่าเชื่อถือ และบริการที่เหมาะสมกับเทรดเดอร์ชาวไทย เรามีรายชื่อโบรกเกอร์ที่มีความโปร่งใสสูง ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง และเหมาะสำหรับการเทรดในปี 2025

1. Moneta Markets: ความโปร่งใสที่ชัดเจน ไม่มีค่าธรรมเนียมจุกจิก

Moneta Markets กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับต้นทุนการซื้อขายที่ชัดเจนและคาดการณ์ได้ ด้วยนโยบายการดำเนินงานที่ตรงไปตรงมาและโปร่งใส

จุดเด่นด้านความโปร่งใส:

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากหรือถอน: ไม่ว่าคุณจะเลือกช่องทางใด โบรกเกอร์ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ จากกิจกรรมการเงินของคุณ
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชี: คุณสามารถพักการซื้อขายได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหักเงินโดยอัตโนมัติ

ข้อดีอื่น ๆ:

  • ได้รับการกำกับดูแลจาก ASIC (ออสเตรเลีย) และ FSCA (แอฟริกาใต้): แสดงถึงความน่าเชื่อถือในระดับสากล
  • รองรับหลายแพลตฟอร์ม: ทั้ง MT4, MT5 และ ProTrader พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ในตัวอย่าง Trading Central
  • สเปรดต่ำเริ่มต้นที่ 0.0 pips: เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนต่ำ

ข้อควรพิจารณา: แม้โบรกเกอร์จะไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินของคุณอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

สรุป: Moneta Markets เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งมือใหม่และมือเก๋าที่ต้องการความชัดเจนในเรื่องต้นทุน เพื่อวางแผนการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ

2. Pepperstone

Pepperstone เป็นที่รู้จักจากความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย และมีค่าสเปรดที่ต่ำมาก โดยเฉพาะในบัญชี Razor ที่เหมาะกับกลยุทธ์ Scalping และ Day Trading

จุดเด่น:

  • โครงสร้างค่าคอมมิชชั่นชัดเจนสำหรับบัญชี ECN
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากในช่องทางหลัก

ข้อควรพิจารณา:

  • มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานหลัง 12 เดือน
  • การถอนเงินผ่านบางช่องทางอาจมีค่าธรรมเนียม

3. IC Markets

IC Markets ถือเป็นหนึ่งใน “โบรกเกอร์ ECN แท้” ที่มีสภาพคล่องสูงจากผู้ให้บริการหลายราย ช่วยให้สเปรดแคบและเหมาะสำหรับผู้ใช้ EA และเทรดเดอร์ที่ต้องการความเร็ว

จุดเด่น:

  • แสดงสเปรดแบบเรียลไทม์
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน

ข้อควรพิจารณา: มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชี แม้อัตราจะไม่สูงมาก

4. XM

XM เป็นโบรกเกอร์ที่คุ้นหูสำหรับเทรดเดอร์ในไทย ด้วยโปรโมชั่นดี ๆ โบนัสต้อนรับ และการจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อการเรียนรู้

จุดเด่น:

  • ประกาศนโยบาย “ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง” อย่างชัดเจน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน
  • มีการคุ้มครองยอดติดลบ (Negative Balance Protection)

ข้อควรพิจารณา:

  • สเปรดในบัญชี Standard อาจสูงกว่าโบรกเกอร์ ECN
  • มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานหลัง 90 วัน

5. Exness

Exness เป็นที่นิยมในไทยจากความรวดเร็วในการฝาก-ถอนเงินที่เป็นระบบอัตโนมัติ และการให้ Leverage สูงมาก

จุดเด่น:

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนทุกช่องทาง
  • ระบบถอนเงินอัตโนมัติ 24/7
  • รองรับ Leverage สูงตามเงื่อนไข

ข้อควรพิจารณา:

  • สเปรดอาจกว้างขึ้นในช่วงข่าวร้อน
  • มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานบัญชี
ภาพประกอบโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ชั้นนำในไทย ปี 2025

เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมได้ชัดเจน เราได้จัดทำตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมสำคัญของโบรกเกอร์ที่พิจารณาแล้ว

โบรกเกอร์ ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน ค่าธรรมเนียมการถอน สเปรดเฉลี่ย (EUR/USD) คอมมิชชั่น (บัญชี ECN) หน่วยงานกำกับดูแล
Moneta Markets ไม่มี ไม่มี 0.2 pips $6/Lot ASIC, FSCA
Pepperstone มี (หลัง 12 เดือน) อาจมี (บางช่องทาง) 0.1 pips $7/Lot ASIC, FCA
IC Markets มี ไม่มี 0.1 pips $7/Lot ASIC, CySEC
XM มี (หลัง 90 วัน) ไม่มี 0.6 pips (Zero) $7/Lot ASIC, CySEC
Exness มี ไม่มี 0.3 pips (Pro) ไม่มี (Pro) FCA, CySEC

วิธีตรวจสอบค่าธรรมเนียมแอบแฝงด้วยตัวเอง ก่อนเปิดบัญชีในปี 2025

การรู้จักตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเองคือทักษะที่สำคัญที่สุดในการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่คุณควรทำก่อนตัดสินใจ

อ่านเอกสารข้อกำหนดและเงื่อนไข (Client Agreement)

เอกสารนี้คือสัญญาที่ผูกพันระหว่างคุณกับโบรกเกอร์ แม้จะดูซับซ้อน แต่คุณสามารถใช้ Ctrl+F เพื่อค้นหาคำสำคัญ เช่น “ค่าธรรมเนียม”, “ไม่ใช้งาน”, “ถอนเงิน” เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว

ตรวจสอบหน้า “การฝากและถอนเงิน” อย่างละเอียด

เข้าไปยังเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ แล้วค้นหาหน้า “การเงิน” หรือ “Deposits & Withdrawals” โบรกเกอร์ที่โปร่งใสจะแสดงรายการค่าธรรมเนียม ระยะเวลาดำเนินการ และขั้นต่ำของแต่ละช่องทางอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่คำว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียม” โดยไม่มีรายละเอียด

สอบถามฝ่ายบริการลูกค้าโดยตรง

การถามด้วยตัวเองผ่าน Live Chat หรืออีเมล คือวิธีที่ดีที่สุด เพราะจะได้คำตอบเป็นลายลักษณ์อักษร ตัวอย่างคำถามที่ควรถาม เช่น:

  • “มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งานหรือไม่?”
  • “ถ้าฉันถอนเงิน 1,000 บาท ผ่านธนาคารไทย จะมีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่?”
  • “อัตราแลกเปลี่ยนจาก USD เป็น THB ใช้เท่าไหร่ และมีค่าธรรมเนียมเพิ่มไหม?”

ค้นหาข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงใน Pantip หรือกลุ่ม Facebook

การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในชุมชนออนไลน์ไทย เช่น กระทู้ Pantip หรือกลุ่ม Forex จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของประสบการณ์จริง บางครั้งข้อมูลจากผู้ใช้สามารถบอกได้ดีกว่าเว็บไซต์ทางการ

ความสำคัญของใบอนุญาตและการกำกับดูแลสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

แม้ความโปร่งใสในเรื่องค่าธรรมเนียมจะสำคัญ แต่ความปลอดภัยของเงินทุนคือสิ่งสำคัญที่สุด ในประเทศไทย สำนักงาน ก.ล.ต. ยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์รายย่อยโดยตรง ดังนั้น ผู้เล่นควรเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ

หน่วยงานที่ควรให้ความสำคัญ ได้แก่:

  • ASIC (ออสเตรเลีย): มีชื่อเสียงด้านการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย
  • FCA (สหราชอาณาจักร): หนึ่งในหน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดที่สุดในโลก
  • CySEC (ไซปรัส): อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย MiFID II ของยุโรป

โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเหล่านี้ จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด เช่น การแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท (Segregated Accounts) ซึ่งเป็นหลักประกันสำคัญว่าเงินของคุณจะไม่ถูกนำไปใช้ในกรณีที่โบรกเกอร์ล้มละลาย

บทสรุป: เลือกโบรกเกอร์ที่โปร่งใส เพื่อการซื้อขายที่ไร้กังวลในปี 2025

การเอาชนะค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในตลาดฟอเร็กซ์ การเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ไม่ใช่แค่การประหยัดเงิน แต่คือการสร้างสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ยุติธรรมและโปร่งใส ช่วยให้คุณสามารถมุ่งความสนใจไปที่การวิเคราะห์ตลาดและการพัฒนากลยุทธ์ได้อย่างเต็มที่

จากข้อมูลทั้งหมด Moneta Markets ถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในปี 2025 ด้วยนโยบายการไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอน และไม่มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน รวมถึงการกำกับดูแลจาก ASIC และ FSCA ที่เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เครื่องมือและแนวทางที่ให้ไว้ในบทความนี้ เพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ให้เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของคุณเอง เพราะไม่มีโบรกเกอร์ “ที่ดีที่สุด” สำหรับทุกคน แต่มี “โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ”

โบรกเกอร์ Forex ไหนดีที่สุดสำหรับมือใหม่ในปี 2025 ตามความเห็นใน Pantip?

ความคิดเห็นใน Pantip มักจะหลากหลาย แต่โดยทั่วไปแล้ว มือใหม่มักจะมองหาโบรกเกอร์ที่มีคุณสมบัติดังนี้:

  • ใช้งานง่าย มีบัญชีทดลอง (Demo Account)
  • มีสื่อการเรียนรู้เป็นภาษาไทย
  • ฝาก-ถอนเงินผ่านธนาคารไทยได้สะดวก
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมซับซ้อน โบรกเกอร์อย่าง Moneta Markets มักถูกพูดถึงในแง่ดี เนื่องจากไม่มีค่าธรรมเนียมจุกจิก เช่น ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน ซึ่งเป็นมิตรกับมือใหม่ที่อาจยังไม่ได้เทรดสม่ำเสมอ

มีโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ของประเทศไทยโดยตรงหรือไม่?

ณ ปัจจุบัน (ข้อมูลปี 2024-2025) ยังไม่มีโบรกเกอร์ Forex รายย่อยเจ้าใดที่ได้รับการรับรองหรือใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ของประเทศไทยโดยตรง ดังนั้น เทรดเดอร์ในไทยจึงจำเป็นต้องเลือกใช้บริการโบรกเกอร์ต่างประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ FCA (สหราชอาณาจักร) เพื่อความปลอดภัยของเงินทุน

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโบรกเกอร์ Forex ที่เราใช้บริการปิดหนี?

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำ โบรกเกอร์เหล่านี้มักจะมีข้อบังคับให้ “แยกบัญชีเงินทุนของลูกค้า” (Segregated Accounts) ออกจากบัญชีของบริษัท หากโบรกเกอร์ล้มละลาย เงินทุนของลูกค้าจะยังคงปลอดภัยและไม่ถูกนำไปใช้หนี้ นอกจากนี้ บางหน่วยงานกำกับดูแลยังมี “กองทุนชดเชยนักลงทุน” (Investor Compensation Fund) เพื่อเยียวยาในกรณีที่เกิดปัญหาอีกด้วย

โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือในไทยควรมีใบอนุญาตจากที่ไหน?

สำหรับเทรดเดอร์ในประเทศไทย ควรให้ความสำคัญกับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1 ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้แก่:

  1. ASIC (Australia): มีชื่อเสียงด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค
  2. FCA (United Kingdom): เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เก่าแก่และน่าเชื่อถือที่สุดในโลก
  3. CySEC (Cyprus): เป็นหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งต้องปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย MiFID II

Moneta Markets มีค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นในการฝาก-ถอนเงินบาทหรือไม่?

ตามนโยบายของ Moneta Markets พวกเขาจะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการฝากและถอนเงิน ซึ่งรวมถึงการทำธุรกรรมผ่านธนาคารไทยด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อาจต้องตรวจสอบกับธนาคารของตนเองว่ามีค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศหรือไม่ แต่ในส่วนของโบรกเกอร์นั้นไม่มีการบวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โปร่งใสมากสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทย

บัญชีเทรด Forex แบบไหนที่มักจะไม่มีค่าคอมมิชชั่น?

บัญชีประเภท “Standard” หรือ “Standard STP” มักจะเป็นบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด แต่โบรกเกอร์จะรวมต้นทุนไว้ในค่าสเปรดแทน ทำให้สเปรดของบัญชีประเภทนี้กว้างกว่าบัญชีประเภท “ECN” หรือ “Raw Spread” ซึ่งมีสเปรดที่แคบมากแต่จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นแยกต่างหากต่อการซื้อขายแต่ละครั้ง

เราจะตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ Forex ได้อย่างไร?

คุณสามารถตรวจสอบได้โดยนำเลขที่ใบอนุญาต (License Number) ที่โบรกเกอร์แสดงไว้บนเว็บไซต์ ไปตรวจสอบโดยตรงกับเว็บไซต์ของหน่วยงานกำกับดูแลนั้นๆ เช่น เข้าไปที่เว็บไซต์ของ FCA Financial Services Register แล้วค้นหาชื่อหรือหมายเลขของโบรกเกอร์เพื่อยืนยันสถานะ หากข้อมูลตรงกันก็ถือว่ามีความน่าเชื่อถือในระดับสูง

ค่าสเปรด (Spread) ถือเป็นค่าธรรมเนียมซ่อนเร้นหรือไม่?

ไม่ถือว่าเป็นค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ซึ่งเป็นต้นทุนหลักและเป็นแหล่งรายได้ปกติของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ที่โปร่งใสจะแสดงค่าสเปรดแบบเรียลไทม์บนแพลตฟอร์มการเทรดอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม “สเปรดที่กว้างเกินจริง” หรือ “การถ่างสเปรดอย่างไม่มีเหตุผล” อาจถือเป็นกลยุทธ์ที่ไม่เป็นธรรมได้ ดังนั้นการเปรียบเทียบสเปรดเฉลี่ยของโบรกเกอร์ต่างๆ จึงยังคงเป็นสิ่งสำคัญ

Leave a Reply