สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ถ้าให้พูดถึงเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อ “ฮ่องกง” และดัชนีตัวสำคัญอย่าง “ฮั่งเส็ง” (Hang Seng Index) กันมาบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
แต่บางทีเราเห็นข่าวพาดหัวว่า *ฮั่งเส็ง* ร่วง หรือ *ฮั่งเส็ง* พุ่ง ก็อาจจะงงๆ ว่า “เอ๊ะ! เจ้าฮั่งเส็งนี่มันคืออะไรกันแน่ ทำไมมันถึงสำคัญ แล้วทำไมบางทีมันถึงอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าคนรักเก่าของเราเสียอีก!” วันนี้ผมในฐานะเพื่อนที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเงินมานาน เลยอยากจะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ฮั่งเส็ง” ในแบบที่เข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องใส่สูทผูกไทให้มันวุ่นวายครับ
ลองนึกภาพตามนะครับว่า ฮั่งเส็งเนี่ยะ ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่มันเหมือนกับเป็น “พรายกระซิบ” ที่เล่าเรื่องราวเศรษฐกิจของฮ่องกงให้เราฟังในทุกๆ วัน เป็นดัชนีหลักที่ใช้สะท้อนผลงานของบรรดาบริษัทใหญ่ยักษ์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ลองคิดดูสิครับว่าถ้าบริษัทชั้นนำของประเทศหลายสิบแห่งทำงานได้ดี มีกำไรเติบโต ดัชนีตัวนี้ก็ย่อมต้องกระเตื้องขึ้นตามไปด้วย และนั่นก็ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกเลยทีเดียวครับ เพราะฮ่องกงเองก็เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญระดับโลก ถ้าดัชนีตัวนี้มีปัญหา ก็เหมือนสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้นมานั่นแหละครับ

ทีนี้ พอเราเข้าใจแล้วว่า *ฮั่งเส็ง* คืออะไร เราก็คงอยากรู้ต่อว่าแล้วทำไมมันถึงชอบทำตัว “ดราม่า” ซะเหลือเกิน เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เอาแน่เอานอนไม่ได้! เหตุผลหลักๆ เลยก็คือเจ้า *ฮั่งเส็ง* เนี่ยะ มันเป็นดัชนีที่อ่อนไหวต่อ “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” จากภายนอกเอามากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสองประเทศมหาอำนาจอย่าง “จีน” ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่ผูกพันกันสุดๆ และ “สหรัฐอเมริกา” ที่มักจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ
ลองย้อนดูช่วงปี 2018-2019 ที่มีเรื่อง “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนสิครับ พอมีข่าวการเจรจาที่ไม่คืบหน้า หรือมีประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นทีไร *ฮั่งเส็ง* ก็มักจะออกอาการ “แพนิก” ทันที บางวันเปิดตลาดมาก็ดิ่งลงเหวไปแล้ว พอมีข่าวดีขึ้นมาหน่อยก็ค่อยกระเตื้องขึ้นมาได้ นั่นแหละครับคือสิ่งที่สะท้อนว่าตลาดฮ่องกงผูกติดกับชะตากรรมของเศรษฐกิจจีนและนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ มากขนาดไหน ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านชี้ว่าเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็ว ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮ่องกงที่เป็นประตูการค้าสำคัญ ส่วนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่เราเรียกกันว่า “เฟด” (Federal Reserve) ก็มีผลต่อค่าเงินและการเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินลงทุนไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าฮ่องกงก็หนีไม่พ้นอิทธิพลเหล่านี้ไปได้เลยครับ

แล้วใครกันล่ะครับคือ “ตัวเดินเรื่อง” สำคัญที่อยู่ในดัชนี *ฮั่งเส็ง* นี้? ก็ต้องบอกว่ามีแต่บริษัทระดับ “บิ๊กเนม” ทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็น “เทนเซ็นต์” (Tencent) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเจ้าของแอปพลิเคชันที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ หรือจะเป็น “ไอซีบีซี” (ICBC – Industrial and Commercial Bank of China) หนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแน่นอนว่ายังมี “อาลีบาบา” (Alibaba) เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซที่ใครๆ ก็รู้จัก บริษัทเหล่านี้ไม่ได้มีบทบาทแค่ในฮ่องกงเท่านั้นนะครับ แต่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกอย่างมหาศาล ลองนึกภาพว่าถ้าบริษัทเหล่านี้มีผลประกอบการที่ยอดเยี่ยม หรือมีข่าวดีเข้ามา ดัชนี *ฮั่งเส็ง* ก็ย่อมได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่ถ้ามีข่าวร้าย เช่น ถูกควบคุมจากภาครัฐ หรือโดนกีดกันทางการค้า ก็ย่อมส่งผลกระทบในทางลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องคอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลาครับ
ส่วนเรื่องของการ “อ่านใจ” เจ้า *ฮั่งเส็ง* ว่ามันจะไปทางไหนนั้น นักลงทุนสายเทคนิคเขาก็จะมีเครื่องมือเด็ดๆ มาช่วยวิเคราะห์กันนะครับ เช่น การใช้ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่” (Moving Averages) ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นบอกทิศทางว่าตอนนี้ตลาดกำลังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นหรือขาลง หรือการใช้ “ออสซิลเลเตอร์” (Oscillators) ที่คล้ายๆ กับเข็มวัดอารมณ์ตลาดว่าตอนนี้อยู่ในช่วงซื้อมากเกินไป หรือขายมากเกินไปแล้วหรือยัง ซึ่งสัญญาณที่ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้บางครั้งก็แตกต่างกันไป ทำให้ภาพรวมของทิศทางตลาดยังไม่ชัดเจนนัก เหมือนกับดูหนังผีที่ยังไม่รู้ว่าผีจะโผล่มาตอนไหนนั่นแหละครับ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องมือเหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลนะครับ เพียงแต่ว่าเราต้องใช้มันอย่างรอบคอบและไม่หลงเชื่อมันทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วตลาดก็ขับเคลื่อนด้วย “ข่าวสาร” และ “ความรู้สึก” ของนักลงทุนด้วยเช่นกันครับ
ดังนั้นแล้ว สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาส หรือกำลังติดตามเจ้า *ฮั่งเส็ง* อยู่นั้น ผมอยากจะบอกว่ามันเหมือนกับการที่เรากำลังจะคบหาเพื่อนใหม่ที่นิสัยค่อนข้างซับซ้อนและมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลาครับ สิ่งที่เราต้องทำคือ “ทำความเข้าใจ” เขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หมั่นศึกษาข้อมูลข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นข่าวเศรษฐกิจของจีน ข่าวการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หรือแม้แต่ข่าวของบริษัทใหญ่ๆ ในดัชนี *ฮั่งเส็ง* เอง

และที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าทุ่มสุดตัว” ครับ การลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูงแบบนี้ ควรแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ และกระจายความเสี่ยงไปในหลายๆ สินทรัพย์ อย่าใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว เหมือนกับถ้าเราจะไปเที่ยวผจญภัย เราก็ต้องเตรียมแผนสำรองไว้หลายๆ แผนจริงไหมครับ แพลตฟอร์มการลงทุนสมัยใหม่หลายแห่ง เช่น Moneta Markets ก็มีเครื่องมือและเงื่อนไขการซื้อขายที่หลากหลายให้เลือกใช้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนแต่ละคน แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้แพลตฟอร์มใดก็ตาม หัวใจสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจเสมอครับ
สุดท้ายนี้ ขอสรุปแบบสั้นๆ ว่า *ฮั่งเส็ง* คือดัชนีที่สำคัญของตลาดหุ้นฮ่องกง ที่สะท้อนเศรษฐกิจของฮ่องกงโดยรวม มันมีความผันผวนสูงมาก และได้รับอิทธิพลอย่างรุนแรงจากเศรษฐกิจจีนและนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้มันเป็นทั้ง “โอกาส” และ “ความท้าทาย” ในเวลาเดียวกัน
⚠️ คำแนะนำท้ายบท: การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในดัชนี *ฮั่งเส็ง* หรือสินทรัพย์อื่นๆ ก็ตาม ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจนำเงินไปลงทุนที่ไหน ขอให้ทุกท่านประเมินความเสี่ยงที่ตนเองรับได้เสมอครับ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน คิดให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ ถ้าเงินที่เราจะนำไปลงทุนนั้นเป็นเงินร้อน หรือเงินที่อาจจะต้องใช้ในอนาคตอันใกล้ ก็อาจจะไม่เหมาะกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงแบบนี้ครับ เพราะการลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนที่เราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ และทำบนพื้นฐานของข้อมูลที่รอบด้านที่สุดครับ ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ!