
เคยไหมครับ? เวลาเจอข่าวเศรษฐกิจ เจอศัพท์การเงินยากๆ หรือเห็นตัวย่อแปลกๆ ในอินเทอร์เน็ตแล้วงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ อย่างบางทีไปเห็นคำว่า `spx คือ` ขึ้นมา แล้วก็สงสัยว่าเอ๊ะ มันเกี่ยวกับหุ้น เกี่ยวกับอะไรที่เราลงทุนอยู่หรือเปล่านะ?
ในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่คลุกคลีกับเรื่องพวกนี้มานาน เข้าใจเลยครับว่าโลกการเงินบางทีก็ซับซ้อนซะเหลือเกิน ศัพท์เยอะแยะไปหมด แต่จริงๆ แล้วถ้าเราลองค่อยๆ ทำความเข้าใจ มันก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์นั่นแหละครับ วันนี้ผมอยากชวนเพื่อนๆ มาลองแกะเรื่องพวกนี้ไปด้วยกันแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องเครียด รับรองว่าเหมือนนั่งคุยกันเพลินๆ เลยครับ
**มองหา `spx คือ` อาจเจออะไรบ้างนะ?**
เวลาเราเจอคำว่า `spx คือ` มันอาจจะหมายถึงหลายอย่างได้เลยครับ เพราะในโลกธุรกิจและการเงิน ตัวย่อหรือชื่อที่คล้ายกันมีเยอะไปหมด บางทีมันก็หมายถึงชื่อบริษัทจริงๆ ที่เขาจดทะเบียนทำธุรกิจอยู่
ยกตัวอย่างข้อมูลที่เราไปเจอมานะครับ บางทีคำว่า SPX อาจจะหมายถึงบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการขนส่งก็ได้นะ อย่างข้อมูลจากเว็บไซต์ dataforthai.com ที่รวบรวมรายละเอียดการจดทะเบียนบริษัทเนี่ย เราจะเห็นว่ามีบริษัทชื่อ **บริษัท เอสพีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด** อยู่ด้วยนะ
บริษัทนี้เขาจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2561 แล้วครับ มีเลขทะเบียนนิติบุคคลชัดเจนเลยคือ 0105561164871 กิจกรรมหลักๆ ของเขาก็คือ การบริหารจัดการด้านการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้าครับ ตอนนี้ก็ยังดำเนินกิจการอยู่ สำนักงานใหญ่ก็ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครนี่เอง ที่อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 24 บนถนนรัชดาภิเษก แถวๆ แขวงดินแดง เขตดินแดงนี่แหละครับ ทุนจดทะเบียนตอนก่อตั้งก็อยู่ที่ 2,000,000 บาท หรือสองล้านบาท
อันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งว่า `spx คือ` อะไรได้บ้างในมุมของการเป็นชื่อบริษัทที่ทำธุรกิจจริงๆ ในบ้านเราครับ การรู้ข้อมูลพื้นฐานของบริษัทแบบนี้ก็เป็นเรื่องดีนะ ถ้าเราอยากทำความรู้จักธุรกิจต่างๆ
**จากชื่อบริษัท สู่โลกของการลงทุนที่ต้องระวัง!**
แต่ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีแค่การรู้จักชื่อบริษัทใช่ไหมครับ? บางทีเราเจอคำว่า `spx คือ` ในบริบทของการเงิน การลงทุน หรือการซื้อขายตราสารต่างๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะโลกของการลงทุนมันมีความเสี่ยงซ่อนอยู่เยอะเลยครับ
ข้อมูลที่เราได้มาจากแหล่งข้อมูลอย่าง Fusion Media เนี่ย เขาเตือนเราชัดเจนมากๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงในตลาดการเงิน โดยเฉพาะเรื่องของการซื้อขาย `ตราสารทางการเงิน` หรือพวก `เงินดิจิทัล` (Digital Currency) ทั้งหลาย คือต้องยอมรับตรงๆ ว่าการลงทุนพวกนี้ มีความเสี่ยงสูงมาก ครับ ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ เพราะมันอาจทำให้เรา `สูญเสียเงินลงทุน` ไปทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้
เปรียบเทียบง่ายๆ นะครับ การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็เหมือนเวลาเราจะข้ามถนนที่รถวิ่งเร็วๆ เราต้องมองซ้ายมองขวาให้ดีมากๆ ดูว่ารถมาหรือเปล่า ตัวเราพร้อมที่จะเดินข้ามในจังหวะนั้นไหม ไม่ใช่หลับหูหลับตาข้ามไปเลย แบบนั้นอันตรายมากๆ ครับ
แล้วทำไมมันถึงเสี่ยงล่ะ? หนึ่งในเหตุผลหลักคือ `ราคาผันผวน` ครับ ราคาของพวก `เงินดิจิทัล` หรือ `ตราสารทางการเงิน` บางอย่างเนี่ย ขึ้นลงแรงและเร็วมาก เหมือนสภาพอากาศที่คาดเดาได้ยาก อยู่ๆ แดดเปรี้ยง พริบตาเดียวฝนตกหนักซะงั้น

**ปัจจัยภายนอก ตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้**
อะไรทำให้ราคาผันผวนขนาดนั้นน่ะเหรอครับ? มันมี `ปัจจัยภายนอก` เยอะแยะไปหมดเลย ทั้ง `เหตุการณ์ทางการเงิน` ทั่วโลก หรือแม้แต่ `กฎหมายกำกับดูแล` ที่รัฐบาลออกมา หรือบางทีก็เป็นเรื่องของ `การเมือง` ก็มีผลครับ ข่าวเล็กๆ ข่าวเดียวอาจจะทำให้ราคาของสิ่งที่เราลงทุนอยู่เปลี่ยนไปอย่างมหาศาลได้เลยนะ
แล้วถ้าอยากเร่งความรวย หรืออยากได้ผลตอบแทนเยอะๆ เลยไปใช้สิ่งที่เรียกว่า `มาร์จิ้น` (Margin) ในการซื้อขายล่ะ? อันนี้ยิ่งต้องระวังคูณสองคูณสามเลยครับ `มาร์จิ้น` เนี่ยง่ายๆ คือการ `ยืมเงินมาเทรด` ครับ มันช่วยให้เราซื้อขายได้เยอะขึ้นด้วยเงินตัวเองที่น้อยลง แต่ถ้า `ราคาผันผวน` ผิดทางที่เราคิด เงินที่เรายืมมาก็จะกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้ทันที `ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง` ให้เงินทุนที่เรามีอยู่ `อีกหลายเท่า` เลยครับ
ลองนึกภาพว่าเราจะเปิดร้านขายของแล้วไปกู้เงินมาลงทุนเยอะๆ ถ้าขายดีก็ดีไป แต่ถ้าขายไม่ดี ขาดทุน เราไม่ได้แค่เสียเงินทุนตัวเองนะ ต้องมานั่งใช้หนี้ที่กู้มาอีก การเทรดด้วย `มาร์จิ้น` ก็คล้ายๆ กันในแง่ของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นครับ
**ใครที่เหมาะกับการลงทุนเสี่ยงสูง?**
จากข้อมูลที่เขาเปิดเผยความเสี่ยงเนี่ย เขาบอกชัดเจนเลยว่า `การลงทุนดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกราย` นะครับ คือไม่ใช่ว่าใครๆ ก็โดดเข้าไปลงทุนใน `ตราสารทางการเงิน` หรือ `เงินดิจิทัล` ได้หมด
ก่อนที่เราจะตัดสินใจ `ซื้อขาย` อะไรก็ตาม เราควร `ทำความเข้าใจและตระหนักถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้อง` ให้ดีก่อนครับ แล้วต้องมาพิจารณาตัวเองอย่างรอบคอบด้วยว่า `วัตถุประสงค์การลงทุน` ของเราคืออะไร? เราอยากได้อะไรจากการลงทุนนี้? เรามี `ระดับประสบการณ์` ในโลกการเงินมากน้อยแค่ไหน? และที่สำคัญที่สุดคือ เรามี `ความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง` ได้มากแค่ไหน?
บางคนเห็นเงินทุนตัวเองลดลงไปนิดหน่อยก็กินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว แบบนี้อาจจะไม่เหมาะกับการลงทุนที่ `ราคาผันผวน` หนักๆ นะครับ เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองในเรื่องนี้มากๆ ครับ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ แหล่งข้อมูลความเสี่ยงเขาก็แนะนำให้ `แสวงหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพหากจำเป็น` ด้วยนะครับ อย่าไปลุยเดี่ยวถ้ายังไม่ชัวร์
**ข้อมูลที่เราเห็น อาจไม่ใช่ข้อมูลจริงทั้งหมด**
อีกจุดที่น่าสนใจมากๆ จากข้อมูลความเสี่ยงคือเรื่องของ `ข้อมูลและราคาที่แสดงบนเว็บไซต์` ครับ เขาเตือนว่า `อาจไม่ใช่ข้อมูลเรียลไทม์หรือมีความแม่นยำสมบูรณ์เสมอไป`

ทำไมล่ะ? เพราะบางครั้งข้อมูลเหล่านั้น `อาจมาจากผู้ดูแลสภาพคล่อง` (Liquidity Provider) ครับ ซึ่งเขาบอกว่ามัน `ไม่ใช่ตลาดหลักทรัพย์โดยตรง` นะครับ ผลก็คือ `ราคา` ที่เราเห็นมันเป็นแค่ `ราคาชี้นำ` (Indicative Price) คือเป็นราคาบอกคร่าวๆ ว่าประมาณนี้นะ `ไม่เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ในการซื้อขาย` จริงๆ ครับ
ลองนึกภาพว่าเราไปดูราคาสินค้าในหน้าเว็บเฉยๆ อาจจะยังไม่ใช่ราคาจริงที่เราต้องจ่ายตอนกดสั่งซื้อก็ได้นะ ราคามันอาจจะขยับไปแล้วตอนที่เราจะกดซื้อจริงๆ ซึ่งในโลกของการเทรดที่ `ราคาผันผวน` เร็วๆ ไอ้ความต่างแค่เสี้ยววินาทีนี้แหละ อาจจะทำให้ผลลัพธ์ต่างกันลิบลับเลยครับ
ดังนั้น ถ้าเราเห็นข้อมูลราคาบนเว็บไซต์ไหนก็ตาม (อย่างแหล่งข้อมูลของเราคือ Fusion Media) ต้องเข้าใจว่าข้อมูลนั้นอาจจะไม่ได้เป๊ะ 100% ตลอดเวลาครับ
**ข้อควรจำอื่นๆ และความรับผิดชอบของเรา**
นอกจากเรื่องความเสี่ยงและข้อมูลที่ไม่เรียลไทม์แล้ว แหล่งข้อมูลเขาก็ย้ำเรื่องความรับผิดชอบด้วยนะครับ เขาบอกว่า `ผู้ให้ข้อมูลจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการสูญเสียที่เกิดจากการซื้อขายหรือการพึ่งพาข้อมูลจากแหล่งดังกล่าว` นะครับ คือเขาให้ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทาง แต่ถ้าเราเอาไปใช้แล้วขาดทุน เขาไม่เกี่ยว เพราะเขาเตือนเรื่องความเสี่ยงแล้ว
อีกอย่างคือเรื่อง `ทรัพย์สินทางปัญญา` (Intellectual Property) ครับ ข้อมูลต่างๆ ที่เราเห็นบนเว็บไซต์เหล่านั้น `ห้ามนำไปใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือแจกจ่าย โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ให้ข้อมูล` ครับ อันนี้เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่เราต้องเคารพด้วยครับ
สุดท้ายเลยคือบางทีเว็บไซต์ที่เราเห็นข้อมูล `อาจมีการได้รับผลตอบแทนจากการโฆษณาที่ปรากฏบนเว็บไซต์` อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติของธุรกิจออนไลน์ทั่วไปครับ แค่ให้เรารับทราบไว้
**สรุปง่ายๆ สไตล์คอลัมนิสต์**
จะเห็นว่าการที่เราไปเจอคำว่า `spx คือ` หรือศัพท์การเงินอื่นๆ แล้วสงสัย ใคร่รู้ เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ การทำความเข้าใจว่ามันคืออะไร อย่างในกรณี SPX อาจจะเป็นชื่อบริษัทขนส่ง หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับโลกการลงทุนที่ซับซ้อนกว่านั้น
สิ่งสำคัญที่สุดคือ **ไม่ว่าเราจะเจอคำศัพท์ทางการเงินอะไรก็ตาม หรือคิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการ `ซื้อขาย` หรือ `การลงทุน` แบบไหน เราต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดมากๆ ก่อน** ครับ โดยเฉพาะเรื่องของ `ความเสี่ยง` ที่มาพร้อมกับมัน
อย่าเพิ่งหลงไปกับคำว่าผลตอบแทนสูงๆ หรือโอกาสรวยเร็วทันใจนะครับ เพราะเหรียญอีกด้านของมันคือ `ความเสี่ยง` ที่จะ `สูญเสียเงินลงทุน` ทั้งหมดได้เช่นกัน ถามตัวเองดีๆ ว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน มี `วัตถุประสงค์การลงทุน` ที่ชัดเจนหรือยัง และถ้าไม่แน่ใจจริงๆ การปรึกษา `ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพ` ก็เป็นทางออกที่ดีครับ
ข้อมูลและ `ราคา` ที่เราเห็นบนอินเทอร์เน็ตก็ใช้ประกอบการตัดสินใจได้ แต่อย่าลืมว่าบางครั้งมันอาจจะไม่ได้ `เรียลไทม์` หรือแม่นยำ `เหมาะกับการเทรดจริง` เสมอไปนะครับ
สุดท้ายนี้ อยากฝากไว้เลยครับว่า การเงินไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเราทำความเข้าใจมันอย่างรอบคอบ และมีความรู้ติดตัว การตัดสินใจลงทุนของเราก็จะมั่นคงมากขึ้นครับ
⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน และควรประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเองทุกครั้งก่อนลงทุนใน `ตราสารทางการเงิน` หรือ `เงินดิจิทัล` ที่มีความ `ราคาผันผวน` สูง