S&P 500 ETF: ลงทุนง่าย ได้กำไรดี? ไขความลับตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ช่วงนี้เพื่อนๆ หรือคนรู้จักหลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องการลงทุนกันมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ยิ่งช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นหลายๆ ที่ปรับตัวขึ้นดี หนึ่งในชื่อที่ได้ยินบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” ซึ่งมีดัชนีที่เป็นเหมือนมาตรวัดสำคัญอยู่ตัวหนึ่ง ชื่อว่า “S&P 500” แล้วคุณล่ะครับ/คะ เคยได้ยินชื่อ “s&p 500 etf” หรือกองทุนที่ตามดัชนีนี้บ้างไหม?

ถ้ายังไม่คุ้น ไม่เป็นไรครับ/คะ ลองนึกภาพง่ายๆ S&P 500 ก็เหมือนตะกร้าใบใหญ่ที่รวมเอาหุ้นของ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกามาไว้ด้วยกัน โดยให้น้ำหนักตามมูลค่าของบริษัทนั้นๆ หมายความว่าบริษัทที่ใหญ่มากๆ อย่าง Apple, Microsoft, Amazon จะมีอิทธิพลต่อการขึ้นลงของดัชนีนี้สูงกว่าบริษัทที่ขนาดเล็กลงมาหน่อย ดัชนี S&P 500 นี้จึงถูกมองว่าเป็นตัวแทนสุขภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้ครับ/คะ เวลาที่เราพูดว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงจากดัชนีตัวนี้นี่แหละ

แล้ว “s&p 500 etf” ที่เรากำลังพูดถึงล่ะคืออะไร? มันก็คือกองทุนรวมชนิดหนึ่งที่ซื้อขายได้เหมือนหุ้นเลยครับ/คะ (ภาษาอังกฤษเรียกว่า Exchange Traded Fund หรือ ETF) เป้าหมายของ s&p 500 etf คือการพยายามเลียนแบบผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ให้ใกล้เคียงที่สุด พูดง่ายๆ คือ ถ้าดัชนีขึ้น กองทุน s&p 500 etf ก็ควรจะขึ้นตามไปด้วย ถ้าดัชนีลง กองทุนก็ควรจะลงตาม หลักๆ คือลงทุนในหุ้น 500 ตัวนั้นแหละครับ/คะ แค่มาอยู่ในรูปแบบกองทุนที่ซื้อขายง่าย

หนึ่งในกองทุน s&p 500 etf ที่ได้รับความนิยมและมีขนาดใหญ่มาก ชื่อว่า VOO บริหารจัดการโดยบริษัท Vanguard ครับ/คะ กองทุนนี้มีสไตล์การบริหารแบบ “อิงดัชนี” หรือ Passive Management คือไม่ได้มีผู้จัดการกองทุนมานั่งเลือกหุ้นว่าจะซื้อตัวไหน ขายตัวไหน แบบกองทุนที่บริหารเชิงรุก แต่ใช้วิธีลงทุนตามสัดส่วนของหุ้น 500 ตัวในดัชนี S&P 500 เลย ข้อดีสุดๆ ของกองทุนแบบนี้คือ “ค่าธรรมเนียม” ที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก สำหรับ VOO ข้อมูล ณ วันที่ 26 เมษายน 2024 ค่าธรรมเนียมรายปี (Expense Ratio) อยู่แค่ 0.03% เท่านั้นเองครับ/คะ ถือว่าถูกมากๆ เมื่อเทียบกับกองทุนรวมส่วนใหญ่ทั่วไป

VOO ถูกจัดอยู่ในหมวดกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตและคุณค่าผสมผสานกัน (Large Blend) ระดับความเสี่ยงอยู่ที่ 4 จาก 5 หมายถึงมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่รับความผันผวนได้และมองการลงทุนในระยะยาวครับ/คะ เพราะลงทุนในหุ้นล้วนๆ ราคา NAV (ราคาที่สะท้อนมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน) และราคาตลาด (ราคาซื้อขายจริงในตลาดหุ้น) ของ VOO ก็จะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกัน อย่างข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2024 ราคาตลาดอยู่ที่ 509.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ NAV อยู่ที่ 509.79 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเรื่องปันผล (Dividend Yield) ข้อมูล 30 วัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2024 อยู่ที่ประมาณ 1.27% ครับ/คะ

มาดูผลการดำเนินงานของ VOO กันบ้าง ซึ่งก็สะท้อนผลงานของดัชนี S&P 500 นั่นแหละครับ/คะ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2024 ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (Year-to-Date หรือ YTD) อยู่ที่ประมาณ 17.44% (อิงราคาตลาด) หรือ 17.55% (อิง NAV) ถ้าดูย้อนหลังไปหนึ่งปี (ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2024) ผลตอบแทนก็ปังมากครับ/คะ อยู่ที่ประมาณ 24.5% ส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีนับตั้งแต่เริ่มกองทุนมาตั้งแต่ปี 2010 ก็ทำได้ดีทีเดียว อยู่ที่ประมาณ 14.5% ครับ/คะ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การลงทุนใน 500 บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ ผ่าน s&p 500 etf อย่าง VOO ให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา และมีศักยภาพในการเติบโตสูงในระยะยาวครับ/คะ

คุณอาจจะเคยได้ยินกองทุน ETF ตัวอื่นๆ ของ Vanguard เหมือนกัน อย่างเช่น VYM (Vanguard High Dividend Yield ETF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่จ่ายปันผลสูง บางคนอาจจะสงสัยว่าลงทุนตัวไหนดีกว่ากัน? ถ้าดูเรื่อง “ปันผล” ตรงๆ VYM ให้ผลตอบแทนจากปันผลสูงกว่า VOO อยู่แล้วครับ (ประมาณ 2.9% ของ VYM เทียบกับ 1.3% ของ VOO ตามข้อมูลที่เห็น) แต่ถ้ามอง “ผลตอบแทนรวม” (Total Return ที่รวมทั้งราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นและเงินปันผล) ในระยะยาวแล้ว VOO ทำได้ดีกว่า VYM ครับ/คะ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2020 เป็นต้นมา ที่หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งมีน้ำหนักมากใน S&P 500 ปรับตัวขึ้นแรงมากๆ ทำให้ผลตอบแทนรวมของ VOO พุ่งสูงกว่า VYM ครับ/คะ อย่างไรก็ตาม VYM ก็มีข้อดีตรงที่ความผันผวนมักจะน้อยกว่า VOO ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรงๆ ครับ/คะ

แน่นอนว่า VOO ไม่ใช่ s&p 500 etf ตัวเดียวในตลาด ยังมีกองทุน s&p 500 etf ตัวใหญ่อื่นๆ อีก อย่างเช่น SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY) ซึ่งเป็นกองทุน s&p 500 etf ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หรือ iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ที่บริหารโดย iShares ในเครือ BlackRock กองทุนเหล่านี้มีเป้าหมายเดียวกันคือติดตาม S&P 500 แต่ก็อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไปบ้าง เช่น ค่าธรรมเนียมที่หลากหลาย ตั้งแต่ประมาณ 0.02% (ซึ่งต่ำมากๆ) ไปจนถึง 0.15% นอกจากนี้ยังมีกองทุน s&p 500 etf ที่จดทะเบียนในต่างประเทศภายใต้กฎหมาย UCITS (ที่นิยมในยุโรป) เช่น iShares Core S&P 500 UCITS ETF หรือ Vanguard S&P 500 UCITS ETF ที่มีฐานอยู่ในไอร์แลนด์ หรือกองทุนจากผู้จัดการกองทุนอื่นๆ อย่าง Amundi, Invesco ซึ่งมีวิธีการจำลองดัชนี (Replication Method) ที่ต่างกันไปบ้าง ซึ่งพวกนี้ก็มี s&p 500 etf ให้เลือกลงทุนเช่นกันครับ/คะ

ผลตอบแทนที่ดีของ s&p 500 etf อย่าง VOO ช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องมองปัจจัยเศรษฐกิจประกอบด้วยครับ/คะ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจที่นำมาใช้อ้างอิงในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะมาจากช่วงปี 2023 ซึ่งอาจไม่ใช่ภาพปัจจุบันเป๊ะๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึง “ประเภท” ของปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นและดัชนี S&P 500 ครับ/คะ

ช่วงต้นปี 2023 เราเห็นข่าวธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed (เฟด) ซึ่งมีคุณเจอโรม พาวเวลล์ เป็นประธาน มีการพิจารณาว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้หรือไม่ หลังจากที่ได้ทยอยปรับขึ้นมาต่อเนื่องเพื่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่สูงมาก สุดท้ายแล้ว Fed ก็ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในเดือนมีนาคม 2023 ครับ/คะ การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ Fed เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งระบบการเงิน ต้นทุนทางการเงิน และความน่าสนใจในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเลยครับ/คะ

ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ในช่วงนั้นก็มีผลต่อการตัดสินใจของ Fed และตลาดหุ้นด้วยครับ/คะ อย่างข้อมูลเงินเฟ้อ (อัตราเงินเฟ้อ) เดือนมีนาคม 2023 ก็เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามาตรการของ Fed เริ่มได้ผล ส่วนตลาดแรงงานสหรัฐฯ เดือนมีนาคม 2023 ก็ยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่ครับ/คะ แม้จะมีสัญญาณว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างเริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว ภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมักจะสนับสนุนกำลังซื้อของผู้บริโภคและเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจ

แต่ในภาพรวม เศรษฐกิจโลกก็ยังมีความกังวลอยู่ครับ/คะ อย่างที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เคยออกมาเตือนในช่วงเดือนเมษายน 2023 ว่าแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอาจจะอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 นี่เป็นความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึง S&P 500 ด้วย นอกจากนี้ ภาคธนาคารภูมิภาคในสหรัฐฯ ก็เผชิญความท้าทายบางอย่างในช่วงเดือนเมษายน 2023 ซึ่งสร้างความกังวลให้กับตลาดการเงินระยะหนึ่งครับ/คะ และราคาน้ำมันก็มีความผันผวนหลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอย่าง OPEC+ มีการตัดสินใจลดกำลังการผลิตโดยไม่คาดหมาย ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนพลังงานและเงินเฟ้อทั่วโลก

เห็นไหมครับ/คะว่า ผลตอบแทนของ s&p 500 etf ที่เราเห็นนั้น ไม่ได้มาลอยๆ แต่เชื่อมโยงกับภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจมหภาคทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรติดตามอยู่เสมอ

ทำไมการลงทุนใน s&p 500 etf ถึงน่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั่วไป?
1. **กระจายความเสี่ยงได้ดี:** คุณได้ลงทุนใน 500 บริษัทใหญ่ของสหรัฐฯ ในคราวเดียว ไม่ต้องมาเลือกหุ้นรายตัว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะเจาะจงของบริษัทลงได้เยอะ
2. **ต้นทุนต่ำ:** อย่างที่บอก s&p 500 etf ส่วนใหญ่มีค่าธรรมเนียมต่ำมาก เพราะบริหารตามดัชนี ไม่ได้ใช้ผู้จัดการกองทุนที่ต้องจ่ายค่าตัวแพงๆ ต้นทุนที่ต่ำกว่าหมายความว่าผลตอบแทนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า
3. **ศักยภาพการเติบโต:** การลงทุนใน 500 บริษัทชั้นนำของประเทศเศรษฐกิจใหญ่อย่างสหรัฐฯ มีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจในระยะยาว
4. **ซื้อขายง่าย:** s&p 500 etf ซื้อขายในตลาดหุ้นได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่ง ทำให้มีความคล่องตัวสูง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน s&p 500 etf ก็มีความเสี่ยงนะครับ/คะ ข้อแรกคือเรื่อง “ความผันผวน” ดัชนี S&P 500 และกองทุนที่ตาม ย่อมปรับตัวขึ้นลงแรงตามภาวะตลาดได้ครับ/คะ ถ้าเศรษฐกิจชะลอตัว หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ตลาดหุ้นก็อาจปรับฐานลงแรงได้เหมือนกัน อย่างที่เราเคยเห็นในอดีตช่วงวิกฤตต่างๆ เช่น วิกฤตการเงินปี 2008 หรือช่วงที่เกิดโรคระบาดใหม่ๆ ดัชนีก็เคยปรับตัวลงแรงได้เหมือนกันครับ/คะ

นอกจากนี้ ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่เราคุยกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ หรือความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ก็ยังคงเป็นความไม่แน่นอนที่ต้องจับตาครับ/คะ ถ้า Fed กลับมาใช้นโยบายที่เข้มงวดขึ้น หรือเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงๆ ย่อมส่งผลลบต่อตลาดหุ้นได้ และสำหรับนักลงทุนไทยที่ลงทุนใน s&p 500 etf ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยครับ/คะ

สำหรับใครที่สนใจอยากจะลองลงทุนใน s&p 500 etf สามารถลงทุนผ่านโบรกเกอร์ในประเทศไทยที่มีบริการลงทุนต่างประเทศ หรือลงทุนผ่านแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ต่างประเทศได้ครับ/คะ แพลตฟอร์มการลงทุนหลายแห่งก็มี s&p 500 etf ยอดนิยมอย่าง VOO, SPY, IVV ให้เลือกซื้อขาย เช่น แพลตฟอร์มอย่าง Moneta Markets ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่มี s&p 500 etf ให้ลงทุน ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้มักมีเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมในการเทรดที่แตกต่างกันไป ผู้ลงทุนก็ควรศึกษาและเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจครับ/คะ

สรุปแล้ว s&p 500 etf เป็นเครื่องมือการลงทุนที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และต้องการกระจายความเสี่ยงใน 500 บริษัทชั้นนำ ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและศักยภาพในการเติบโตระยะยาว อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยงครับ/คะ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของราคา หรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ก่อนตัดสินใจลงทุนใน s&p 500 etf หรือสินทรัพย์ใดๆ ก็ตาม ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุนและประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ให้รอบคอบที่สุดนะครับ/คะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำความรู้จัก s&p 500 etf และการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้นนะครับ/คะ

⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และพิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน s&p 500 etf ไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต

Leave a Reply