ไขข้อสงสัย s/p คือ อะไร? รู้ก่อนเทรด ไม่พลาดขาดทุน!

เคยไหมครับ เวลาเปิดดูแอปเทรดหุ้น แล้วจู่ๆ ก็เห็นเครื่องหมายแปลกๆ ขึ้นมาตรงชื่อหุ้น? บางทีก็เป็นตัว ‘H’ บางทีก็เป็น ‘SP’ สร้างความสงสัยไม่น้อยว่า เอ๊ะ! มันคืออะไรกันแน่ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องเครื่องหมาย ‘SP’ นี่แหละครับ ว่าเจ้า s/p คือ อะไรกันแน่ แล้วมันบอกอะไรเราได้บ้างในโลกของการลงทุนที่หมุนเร็วตลอดเวลา

ลองนึกภาพง่ายๆ เหมือนเวลาดูบอลหรือกีฬาอื่นๆ แล้วกรรมการสั่ง ‘หยุดเกมชั่วคราว’ หรือ ‘Time Out’ นั่นแหละครับ ในตลาดหลักทรัพย์ก็มีจังหวะแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ก็คือการขึ้นเครื่องหมาย ‘SP’ หรือที่เรียกเต็มๆ ว่า Trading Suspension หรือ ‘พักการซื้อขายหลักทรัพย์’ ครับ เป็นการที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายหุ้นตัวนั้นเป็นการชั่วคราว ไม่ให้มีการเคาะซื้อเคาะขายกันในช่วงเวลานั้น

ทำไมอยู่ดีๆ ตลาดฯ ต้องสั่งพักการซื้อขายล่ะ? สาเหตุของ s/p คือ อะไรกันแน่? อธิบายได้หลายอย่างเลยครับ ที่เจอบ่อยๆ และนักลงทุนควรใส่ใจเป็นพิเศษก็คือ ปัญหาของบริษัทจดทะเบียนเองครับ อย่างแรกเลยคือเรื่อง ‘งบการเงิน’ นี่แหละครับ ถ้าบริษัทไม่นำส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด ตลาดฯ ก็อาจจะขึ้น SP ได้เลยนะ เพราะงบการเงินเหมือนรายงานสุขภาพของบริษัท ถ้าไม่มี นักลงทุนก็ไม่รู้สถานะที่แท้จริงของบริษัทเลยว่าจะดีจะร้ายยังไง จะตัดสินใจลงทุนได้ยังไงจริงไหมครับ?

นอกจากเรื่องงบการเงินแล้ว การที่บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างร้ายแรง ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้โดน SP ได้ครับ หรือในบางกรณี ถ้าหลักทรัพย์ตัวนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพิกถอนออกจากตลาด หรือกำลังจะมีการปรับปรุงสถานภาพบางอย่าง ตลาดฯ ก็อาจจะขึ้น SP เพื่อให้นักลงทุนรับทราบและระมัดระวังครับ

ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีก อย่างเช่น มีเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเกิดขึ้นกับบริษัท ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือมีข่าวสารข้อมูลสำคัญมากๆ ที่อาจกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ข้อมูลนั้นยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างทั่วถึง ตลาดฯ ก็จำเป็นต้องสั่งพักการซื้อขายไว้ก่อน เพื่อรอให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน นักลงทุนทุกคนจะได้มีข้อมูลเท่าเทียมกันในการตัดสินใจครับ บางทีบริษัทเองก็อาจจะขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งพักการซื้อขายชั่วคราว เพื่อเตรียมการเรื่องสำคัญบางอย่าง เช่น การควบรวมกิจการ หรือการออกหุ้นใหม่ เหมือนกรณีของหุ้น TRUE กับ DTAC ที่เคยขอ SP ชั่วคราวในช่วงเตรียมการควบรวมนั่นแหละครับ

ทีนี้ ถ้าหุ้นที่เราสนใจหรือถืออยู่โดน SP แล้วหลักทรัพย์อื่นๆ ที่อิงกับหุ้นตัวนี้ล่ะจะเป็นยังไง? โดยเฉพาะพวก ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า DW (ดีดับเบิลยู) หรือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) ที่อ้างอิงกับหุ้นตัวที่โดน SP เนี่ย ก็จะโดน SP ตามไปด้วยเลยครับ อันนี้เป็นหลักการพื้นฐานเลย เพราะราคาของ DW หรือ Warrant มันเชื่อมโยงและเคลื่อนไหวตามราคาหุ้นแม่โดยตรง พอหุ้นแม่เทรดไม่ได้ ลูกๆ อย่าง DW หรือ Warrant ก็ไม่สามารถซื้อขายตามได้เช่นกันครับ

แล้วถ้าเกิดสถานการณ์พิเศษคือ DW ที่เราถืออยู่ ดันใกล้จะหมดอายุ หรือหมดอายุไปแล้ว ในขณะที่หุ้นแม่ยังโดน SP อยู่ล่ะ จะทำยังไง? จะได้เงินคืนไหม? ไม่ต้องกังวลจนเกินไปครับ ทางบริษัทหลักทรัพย์ผู้ออก DW เขามีเกณฑ์การคำนวณเงินสดส่วนต่างเพื่อชำระคืนให้นักลงทุนอยู่ครับ เพียงแต่วิธีการคำนวณราคาอาจจะต่างออกไปตามเงื่อนไข

ถ้าหุ้นแม่กลับมาซื้อขายได้ภายใน 30 วันทำการ หลังจากวันซื้อขายวันสุดท้ายของ DW หมดอายุ เขาจะใช้ ‘ราคาปิด’ ของหุ้นแม่ในวันแรกที่กลับมาเทรดได้นั่นแหละครับ มาใช้เป็นราคาในการคำนวณเงินสดส่วนต่าง ถ้าคำนวณแล้วมีเงินส่วนต่างให้เรา เขาก็จะจ่ายให้ภายใน 8 วันทำการหลังจากประกาศราคาครับ

แต่ถ้าโชคร้าย หุ้นแม่ยังไม่กลับมาเทรดได้ภายใน 30 วันทำการหลังจาก DW หมดอายุ คราวนี้ทางผู้ออก DW ก็จะใช้ ‘ราคายุติธรรม’ (Fair Value) ที่ได้รับการประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ มาใช้ในการคำนวณเงินสดส่วนต่างแทนครับ พอได้ราคายุติธรรมมาแล้ว ก็จะคำนวณเงินคืนเหมือนปกติ ถ้ามีเงินส่วนต่าง ก็จะจ่ายให้ภายใน 8 วันทำการหลังจากประกาศราคายุติธรรมนั้นออกมาครับ

มาถึงเรื่องที่นักลงทุนทุกคนต้องฟังให้ดีเลยครับ เพราะการที่หุ้นตัวไหนขึ้นเครื่องหมาย SP นี่ ส่วนใหญ่มันเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก มันมักจะบอกว่าบริษัทนั้นๆ กำลังมีปัญหาบางอย่างที่สำคัญมากๆ ซึ่งอาจจะกระทบกับ ‘ฐานะการเงิน’ หรือ ‘ผลการดำเนินงาน’ ของบริษัทอย่างรุนแรง และแน่นอนว่า มันจะส่งผลโดยตรงต่อ ‘ราคาหุ้น’ ด้วยครับ เราอาจจะเคยได้ยินข่าวหุ้นหลายๆ ตัวที่โดน SP นานๆ แล้วสุดท้ายก็ถูกเพิกถอนออกจากตลาดไปเลย อย่างเคสของหุ้น STARK ที่โดน SP เพราะไม่ส่งงบการเงิน หรือหุ้น MORE ที่โดน SP จากปัญหาการซื้อขายที่ผิดปกติมากๆ

ดังนั้น ความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นที่ขึ้น SP นี่สูงมากๆ เลยนะครับ ถ้าปัญหาของบริษัทมันหนักจริงๆ ราคาหุ้นอาจจะตกลงไปเยอะมากๆ จนแทบไม่มีค่า หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด คือการโดน ‘เพิกถอน’ ออกจากตลาดไปเลย ซึ่งนั่นแปลว่าเงินลงทุนของเราทั้งหมด อาจจะ ‘สูญเปล่า’ ไปได้เลยนะครับ

การเห็น s/p คือ สัญญาณอันตรายสำหรับนักลงทุนครับ มันบ่งชี้ว่าบริษัทนั้นๆ กำลังมีประเด็นที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน หรือมีข้อมูลสำคัญที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งความไม่แน่นอนเหล่านี้คือความเสี่ยงโดยตรงต่อมูลค่าเงินลงทุนของเราครับ

สรุปง่ายๆ ก็คือ เครื่องหมาย s/p คือ การที่ตลาดหลักทรัพย์สั่ง ‘พักการซื้อขาย’ หุ้นตัวนั้นเป็นการชั่วคราวครับ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะมาจากปัญหาภายในของบริษัทเอง ที่กระทบต่อข้อมูลสำคัญ หรือการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่างๆ แม้บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องดี (เช่น เตรียมตัวควบรวม) แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่

สำหรับนักลงทุน ถ้าเจอหุ้นตัวไหนขึ้น SP สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ‘หยุด’ ครับ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจอะไร ไม่ว่าจะคิดจะซื้อเพิ่ม หรือคิดจะขายทิ้งในราคาที่ยังพอมีอยู่ ต้องไปหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนครับ ว่าหุ้นตัวนี้โดน SP ด้วยสาเหตุอะไร ปัญหาร้ายแรงแค่ไหน มีโอกาสจะกลับมาเทรดได้เมื่อไหร่ หรือมีความเสี่ยงจะโดนเพิกถอนออกจากตลาดไหม

เพราะอย่างที่บอกครับ หุ้นที่ขึ้น SP มีความเสี่ยงสูงมากๆ ต่อเงินลงทุนของเรา อาจไม่เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้น้อยมากๆ นะครับ การลงทุนในหุ้น SP เหมือนกำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายที่มองไม่เห็นปลายทาง หากไม่แน่ใจในข้อมูล หรือประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้ การอยู่ห่างๆ หุ้นตัวที่ขึ้น SP ไว้ก่อน ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเงินในกระเป๋าของเราครับ โปรดจำไว้เสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอเครื่องหมาย SP ครับ

Leave a Reply