ไขข้อสงสัย ดัชนีฮั่งเส็ง คืออะไร? ทำไมนักลงทุนไทยต้องรู้!

เพื่อนๆ นักลงทุนชาวไทยที่น่ารักทุกคนครับ!

สวัสดีครับ ผมเอง นักเขียนคอลัมน์การเงินที่ชอบเอาเรื่องยากๆ มาเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ เข้าใจง่าย วันนี้มีคำถามน่าสนใจจากคุณผู้อ่านท่านหนึ่งส่งมาถามว่า “ดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index หรือ HSI) คือ อะไรกันแน่คะ/ครับ? เห็นข่าวบ่อยๆ เกี่ยวกับ ตลาดหุ้นฮ่องกง แล้วมันเกี่ยวกันยังไงคะ/ครับ?” เป็นคำถามที่ดีมากๆ ครับ เพราะ ดัชนีฮั่งเส็ง นี่แหละคือหัวใจสำคัญของ ตลาดหุ้นฮ่องกง ที่นักลงทุนทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนไทยเองก็ให้ความสนใจไม่น้อย

ลองนึกภาพตามนะครับ เวลาเราอยากรู้ว่าสุขภาพคนกลุ่มหนึ่งเป็นยังไง เราอาจจะดูค่าเฉลี่ยต่างๆ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก อายุขัย ดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index หรือ HSI) ก็ทำหน้าที่คล้ายๆ กันนี้แหละครับ มันคือเครื่องมือที่ใช้ “วัดอุณหภูมิ” และ “ประเมินสุขภาพ” โดยรวมของ ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญมากๆ ในตลาดนั้นๆ ครับ

ดัชนีฮั่งเส็ง นี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 เก่าแก่กว่าตลาดหุ้นบ้านเราอีกนะเออ! ผู้ที่รับผิดชอบดูแลการคำนวณและจัดทำดัชนีนี้ก็คือบริษัท Hang Seng Indexes Company ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารฮั่งเส็ง (Hang Seng Bank) นั่นเองครับ เขาไม่ได้คำนวณแบบสุ่มๆ นะครับ แต่ใช้หลักการที่เรียกว่า “ถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตามราคาตลาด” (Market-Cap Weighted) หมายความว่า บริษัทไหนที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ๆ หุ้นราคามีการเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลต่อการขึ้นลงของ ดัชนีฮั่งเส็ง มากกว่าบริษัทเล็กๆ ทำให้ดัชนีนี้สะท้อนภาพรวมของบริษัทใหญ่ๆ ได้ชัดเจนครับ

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ มีนาคม 2023) ดัชนีฮั่งเส็ง ประกอบด้วยหุ้นของบริษัทชั้นนำ 76 ตัว โดยสามารถมีได้สูงสุดถึง 100 ตัว ซึ่งจำนวนนี้จะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนทุกๆ ไตรมาสเพื่อให้ดัชนีมีความทันสมัยและสะท้อนภาพตลาดปัจจุบันได้ดีที่สุด การจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ดัชนีฮั่งเส็ง ได้เนี่ยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะครับ ต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มงวด ทั้งขนาดของบริษัท ระยะเวลาที่จดทะเบียนมาแล้ว สภาพคล่องในการซื้อขาย และความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเกณฑ์เหล่านี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าหุ้นที่อยู่ในดัชนีเป็นบริษัทระดับหัวกะทิ คุณภาพคับแก้วจริงๆ ครับ

ถ้าถามว่าทำไม ดัชนีฮั่งเส็ง ถึงสำคัญ? นอกจากจะเป็นตัวแทนของ ตลาดหุ้นฮ่องกง แล้ว ด้วยความที่ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของเอเชีย และเป็นประตูเชื่อมต่อการลงทุนระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับทั่วโลก ทำให้ ดัชนีฮั่งเส็ง มีบทบาทสำคัญในการสะท้อนความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและการเงินของทั้งฮ่องกงและจีนตอนใต้เลยล่ะครับ เวลาที่สื่อต่างประเทศหรือนักวิเคราะห์พูดถึงภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ ชื่อของ HSI มักจะถูกยกขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ เสมอ

มีคนชอบเอา ดัชนีฮั่งเส็ง ไปเปรียบเทียบกับ ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น) ครับ โดยทั่วไปแล้ว ดัชนีทั้งสองนี้มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เพราะต่างก็ได้รับอิทธิพลจากเศรษฐกิจจีน แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่อาจแตกต่างกันได้ เช่น ในช่วงที่จีนมีการควบคุมดูแลภาคเอกชนอย่างเข้มงวด หรือสถานการณ์เฉพาะอื่นๆ อย่างช่วงโควิด การเปรียบเทียบ HSI กับ CSI 300 จึงช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพลักษณะเฉพาะของแต่ละตลาดได้ชัดเจนขึ้นครับ

โครงสร้างของ ดัชนีฮั่งเส็ง เนี่ยน่าสนใจมากๆ ครับ เพราะประกอบไปด้วยบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม แต่ที่เด่นๆ และมีน้ำหนักถ่วงในดัชนีมากที่สุดก็คือกลุ่ม “การเงิน” และกลุ่ม “เทคโนโลยี” ครับ ลองดูตัวอย่างหุ้นที่อยู่ใน HSI แล้วมีอิทธิพลต่อดัชนีมากๆ ก็เช่น Alibaba (BABA), Tencent (TENCENT), AIA, และ HSBC เป็นต้นครับ เวลาที่ราคาหุ้นใหญ่ๆ เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงมากๆ ก็จะเห็นได้เลยว่า ดัชนีฮั่งเส็ง ก็ขยับตามอย่างมีนัยสำคัญ เหมือนกับว่าคนตัวใหญ่ในกลุ่มมีน้ำหนักเยอะ เดินไปทางไหนทั้งกลุ่มก็เอียงตามไปด้วยนั่นแหละครับ ด้วยสัดส่วนมูลค่าตามราคาตลาดที่คิดเป็นประมาณ 65% ของมูลค่ากิจการทั้งหมดใน ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ยิ่งตอกย้ำว่า HSI เป็นตัวแทนของตลาดโดยรวมได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ

ทีนี้คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยก็คือ “อยากลงทุนใน ดัชนีฮั่งเส็ง หรือหุ้นที่อยู่ในนั้น ต้องทำยังไง?”

คุณอาจจะสงสัยว่า เราสามารถเดินไปซื้อ ดัชนีฮั่งเส็ง ได้โดยตรงเลยไหม? คำตอบคือ “ไม่ได้ครับ” เหมือนกับเราไม่สามารถซื้อ “ตะกร้าผลไม้” ที่รวมเอาผลไม้ชั้นดีต่างๆ มารวมกันได้โดยตรง แต่เราสามารถซื้อ “ผลิตภัณฑ์” ที่อ้างอิงหรือติดตามผลตอบแทนของตะกร้านั้นได้แทนครับ

สำหรับ ดัชนีฮั่งเส็ง ก็เช่นกัน นักลงทุนสามารถลงทุนทางอ้อมผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่อิงกับดัชนีนี้ได้ครับ เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ที่มี HSI เป็นสินทรัพย์อ้างอิง หรือที่นิยมกันมากสำหรับนักลงทุนทั่วไปก็คือ การลงทุนผ่าน กองทุนรวม (Mutual Funds) หรือ กองทุน ETF (Exchange Traded Funds) ที่มีนโยบายลงทุนและติดตามผลตอบแทนของ ดัชนีฮั่งเส็ง นี่แหละครับ กองทุนเหล่านี้จะไปบริหารจัดการลงทุนในหุ้นต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นดัชนี HSI แทนเรา ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีครับ

สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจ ก็สบายใจได้เลยครับ เราสามารถเข้าถึงการลงทุนใน ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และหุ้นที่อยู่ใน ดัชนีฮั่งเส็ง ได้ ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ในประเทศไทยที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศครับ ปัจจุบันมีหลายโบรกเกอร์ที่เปิดช่องทางให้นักลงทุนไทยสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นใน HKEX ได้โดยตรงเลยครับ

แต่ก่อนจะตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ ตลาดหุ้นฮ่องกง ผ่าน ดัชนีฮั่งเส็ง มีเรื่องควรรู้เกี่ยวกับกฎ กติกา และค่าใช้จ่ายเล็กน้อยครับ (อันนี้ยกตัวอย่างข้อมูลคร่าวๆ จากแหล่งที่มานะครับ รายละเอียดล่าสุดต้องเช็กกับโบรกเกอร์ที่เราใช้บริการอีกที)
ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง มีเวลาทำการเป็นช่วงๆ นะครับ ไม่ได้ยาวรวดเดียว โดยปกติคือวันจันทร์-วันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุด) ช่วงเช้าประมาณ 08.00-11.00 น. และช่วงบ่าย 12.00-15.00 น. ตามเวลาฮ่องกงครับ ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ก็ต้องบริหารเวลากันดีๆ สกุลเงินที่ใช้ในการซื้อขายก็แน่นอนว่าเป็นเงิน ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ครับ

เวลาส่งคำสั่งซื้อขายก็จะมีจำนวนหุ้นขั้นต่ำที่เรียกว่า Board Lot กำหนดไว้ เช่น บางหลักทรัพย์อาจจะกำหนดขั้นต่ำที่ 2,000 หุ้นต่อคำสั่ง ไม่ใช่จะซื้อกี่หุ้นก็ได้แบบหุ้นไทยทั้งหมดนะครับ และเรื่องการชำระราคาหลักทรัพย์ก็จะใช้ระบบ T+2 คือเมื่อซื้อหรือขายเสร็จแล้ว จะมีการชำระเงินและส่งมอบหุ้นกันในอีก 2 วันทำการถัดไปครับ เรื่องพวกนี้ต้องทราบไว้เพื่อวางแผนการเงินของเรา

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ไม่ได้มีแค่ค่าคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์อย่างเดียว แต่ยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกหลายอย่าง เช่น ค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมซื้อขายขั้นต่ำ Transaction Levy, Trading Fee, Stamp Duty และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% (ของค่าธรรมเนียมรวม) ครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์และเงื่อนไข ดังนั้นก่อนเทรดต้องศึกษาให้ดีว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และคิดเป็นเท่าไหร่ครับ

สุดท้ายและสำคัญที่สุด! แม้ว่า ดัชนีฮั่งเส็ง จะเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงบริษัทชั้นนำระดับโลกและระดับภูมิภาคได้ แต่การลงทุนใน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตราสารที่อิงกับดัชนีนี้ ย่อมมีความเสี่ยงสูงครับ ราคาของตราสารทางการเงินสามารถปรับขึ้นลงได้แรงมากๆ และได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกสารพัด ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก นโยบายของรัฐบาล กฎหมายใหม่ๆ หรือแม้แต่เหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ครับ

⚠️ **ข้อควรพิจารณาและความเสี่ยงที่ต้องตระหนัก!** การลงทุนมีความเสี่ยงสูงต่อการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือบางส่วน และอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทุกคน นักลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินนะครับ การใช้เครื่องมือบางประเภท เช่น การซื้อขายด้วยมาร์จิน ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินขึ้นไปอีก ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ข้อมูลราคาที่คุณเห็นบนแพลตฟอร์มต่างๆ อาจไม่ใช่ราคาแบบเรียลไทม์เสมอไป แต่อาจเป็นราคาชี้นำ ควรใช้เพื่อเป็นแนวทางเท่านั้นครับ

สรุปง่ายๆ ครับ ดัชนีฮั่งเส็ง คือ ดัชนีชี้วัดสำคัญของ ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เปรียบเสมือนตัวแทนของบริษัทใหญ่ๆ ในตลาดนั้น เป็นเครื่องมือที่นักลงทุนทั่วโลกใช้ติดตามและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจและการเงินของฮ่องกงและจีนตอนใต้ นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนที่อิงกับ ดัชนีฮั่งเส็ง ได้ผ่านกองทุนรวมหรือ ETF ต่างๆ ที่มีให้บริการ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกและระดับภูมิภาค แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ ประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ และวางแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับเป้าหมายนะครับ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับ ดัชนีฮั่งเส็ง ให้กับเพื่อนๆ ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้าครับ! ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุนครับ

Leave a Reply