
เช้าวันนี้หลายคนคงเปิดดูข่าวเศรษฐกิจ หรือไถฟีดดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น หนึ่งในดัชนีที่มักจะเห็นติดหน้าจอ ไม่ว่าจะจากญี่ปุ่น สหรัฐฯ หรือแม้แต่ข่าวในไทย ก็คือ ดัชนีนิเคอิ 225 (Nikkei 225 Index) บางทีก็เรียกสั้นๆ ว่า นิ เค อิ หรือ Japan 225
เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมดัชนีของตลาดหุ้นญี่ปุ่นถึงสำคัญนัก และ นิ เค อิ 225 เช้า นี่ มันสะท้อนอะไรให้เราเห็นบ้าง? ในฐานะคอลัมนิสต์สายเล่าเรื่องการเงิน ผมจะพาไปแกะดูแบบง่ายๆ ให้เห็นภาพกันครับ
**นิ เค อิ 225 คืออะไร? ทำไมต้องรู้จัก?**
ลองนึกภาพว่า ดัชนีตลาดหุ้นก็เหมือนกับ “เกจวัด” สุขภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ครับ สำหรับญี่ปุ่น เกจวัดตัวหลักที่ทั่วโลกจับตา ก็คือ นิ เค อิ 225 นี่แหละครับ มันคือการรวบรวมหุ้นของ 225 บริษัทชั้นนำในตลาดหุ้นโตเกียว (Tokyo Stock Exchange) มาคำนวณค่าเฉลี่ยขึ้นมา คิดง่ายๆ ว่า ถ้าหุ้นของบริษัทใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นส่วนใหญ่ราคาขึ้น ดัชนีนิ เค อิ ก็จะปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนว่าบรรยากาศการลงทุนในญี่ปุ่นดูดี มีความคึกคัก
ดัชนีนี้ จัดทำโดยบริษัท นิเคอิ อิงค์ (Nikkei Inc.) ซึ่งเป็นสำนักข่าวการเงินชื่อดังของญี่ปุ่น ทุกๆ ปีเขาจะมีการทบทวนปรับปรุงรายชื่อ 225 บริษัทนี้ด้วยนะ เพื่อให้มั่นใจว่ายังเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ดีที่สุด
**นิ เค อิ 225 เช้า นี่ เคลื่อนไหวอย่างไร? ปัจจัยไหนส่งผลบ้าง?**
เวลาเราดูข่าว หรือเห็นกราฟ นิ เค อิ 225 เช้า นี่ หรือตลอดทั้งวัน มันไม่ได้ขึ้นลงลอยๆ นะครับ เบื้องหลังมันมีปัจจัยสารพัดเลยที่กำลังทำงานอยู่ เหมือนลมที่พัดใบไม้ให้ไหวเลยทีเดียว
**ปัจจัย “จากนอกบ้าน” (ตลาดโลก):**
* **ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (US Stock Market):** อันนี้ตัวแรงเลยครับ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average), ดัชนี S&P 500 (เอสแอนด์พี 500), และ ดัชนีแนสแด็ก (NASDAQ Composite) ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลก แนวโน้มจากฝั่งโน้นมักจะส่งอิทธิพลต่อความรู้สึกของนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่นด้วยครับ ถ้าตลาดสหรัฐฯ ปิดบวกแรงๆ นิ เค อิ เช้า วันรุ่งขึ้นก็มีแนวโน้มเปิดบวกตาม หรือถ้าฝั่งโน้นมีข่าวร้าย นิ เค อิ ก็อาจจะได้รับแรงกดดันไปด้วย
* **เศรษฐกิจสหรัฐฯ:** ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน อัตราเงินเฟ้อ หรือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด – Fed) ก็มีผลกระทบต่อนิ เค อิ เหมือนกันครับ เพราะมันบอกทิศทางเศรษฐกิจโลก และนโยบายการเงินของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
* **ประเด็นการค้าระหว่างประเทศ:** อย่างข่าวการเจรจาการค้า จีน-สหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าบ้าง ก็เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุน ตลาดหุ้นเอเชีย โดยรวม รวมถึง นิ เค อิ ด้วย เพราะการค้าที่ราบรื่นขึ้นย่อมส่งผลดีต่อบริษัทส่งออก
**ปัจจัย “ในบ้าน” (ญี่ปุ่นเอง):**

* **ค่าเงินเยน:** อันนี้สำคัญมากๆ ครับ เงินเยนแข็งค่า หรืออ่อนค่า มีผลโดยตรงกับบริษัทญี่ปุ่นที่เน้นการส่งออก เพราะเวลาเงินเยนอ่อน บริษัทที่ส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ พอแลกเงินกลับมาเป็นเงินเยน ก็จะได้เงินเยอะขึ้น ทำให้กำไรดี นักลงทุนก็จะชอบ หุ้นกลุ่มส่งออกราคาก็อาจจะขึ้น แต่ถ้าเงินเยนแข็งค่าขึ้น บริษัทส่งออกก็จะดูไม่ดีเท่าไหร่ เรื่องค่าเงินเยนนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนที่ดูกระดาน นิ เค อิ 225 เช้า นี่ ต้องจับตาเลยครับ
* **ตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่น:** แน่นอนว่าตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเองก็มีผลครับ ไม่ว่าจะเป็น GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ), อัตราการว่างงาน, ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม, ยอดนำเข้า-ส่งออก ฯลฯ ตัวเลขเหล่านี้บอกสุขภาพของเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยตรง
* **นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ):** การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย หรือนโยบายการเงินอื่นๆ ของแบงก์ชาติญี่ปุ่น ก็มีผลต่อภาพรวมการลงทุนในประเทศครับ
**ปัจจัย “เฉพาะกลุ่มหุ้น” (ภายในดัชนี):**
* **หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี/เซมิคอนดักเตอร์:** ช่วงนี้ หุ้นกลุ่มนี้มาแรงทั่วโลกครับ ถ้าหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ อย่าง Nvidia (เอ็นวิเดีย) ไปได้ดี ก็มักจะส่งแรงเหวี่ยงมาถึงหุ้นกลุ่มเดียวกันในญี่ปุ่นด้วย เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุน นิ เค อิ ได้
* **หุ้นบริษัทใหญ่ๆ:** อย่างที่บอกว่า นิ เค อิ 225 ประกอบด้วยหุ้น 225 ตัว แต่หุ้นตัวใหญ่ๆ อย่าง โตโยต้า (Toyota), โซนี่ (Sony), หรือ MUFG (เอ็มยูเอฟจี – กลุ่มสถาบันการเงิน) มีน้ำหนักในดัชนีเยอะ การเคลื่อนไหวของหุ้นเหล่านี้ก็มีผลต่อดัชนีโดยรวมค่อนข้างมาก
**แล้วจะลงทุนใน นิ เค อิ 225 ได้อย่างไร?**
เข้าใจแล้วว่า นิ เค อิ 225 คืออะไร และอะไรทำให้มันขึ้นลง คราวนี้ถ้าสนใจอยาก “ร่วมวง” ไปกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นบ้างล่ะ? ต้องบอกว่า เราไม่สามารถไปซื้อตัวดัชนี นิ เค อิ 225 ได้โดยตรงนะครับ มันไม่ใช่หุ้นตัวเดียวที่เราไปเคาะซื้อขายได้ แต่เราสามารถลงทุนในสิ่งที่ “อิง” กับดัชนีนี้ได้หลายวิธี เช่น
1. **ดัชนี Japan 225 Futures:** อันนี้เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อิงกับดัชนี นิ เค อิ 225 มีการเคลื่อนไหวตามดัชนีค่อนข้างใกล้เคียง
2. **กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น:** มีกองทุนหลายกองที่ไปลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี นิ เค อิ 225 หรือดัชนีอื่นๆ ของญี่ปุ่น การลงทุนผ่านกองทุนเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป
3. **ซื้อหุ้นรายตัวที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี:** ถ้าเราศึกษาแล้วชอบบริษัทไหนเป็นพิเศษใน 225 บริษัทนั้น ก็สามารถเลือกซื้อหุ้นรายตัวของบริษัทนั้นๆ ได้เลยครับ เช่น ซื้อหุ้น โตโยต้า หรือ โซนี่
**เครื่องมือช่วยดู นิ เค อิ 225 เช้า นี่ และตลอดวัน**
นอกจากดูข่าวสารแล้ว นักลงทุนสายเทคนิคเขาก็มีเครื่องมือช่วยดูทิศทาง นิ เค อิ ด้วยนะครับ อย่าง Oscillators (ออสซิลเลเตอร์) หรือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยบอกว่า ตอนนี้ตลาดมี “แรงซื้อ” หรือ “แรงขาย” มากกว่ากัน อยู่ในภาวะ “เป็นกลาง” หรือ “มีแรงซื้อ/ขายรุนแรง” ทำให้พอประเมินแนวโน้มระยะสั้นได้ครับ

**มองภาพรวมตลาดอื่นๆ ประกอบ**
เวลาดู นิ เค อิ 225 เช้า นี่ อย่าลืมเหลือบไปดูตลาดอื่นๆ ด้วยนะครับ เช่น ตลาดหุ้นไทย (SET Index และ SET50 INDEX) วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง หรือสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน เป็นอย่างไร รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin (บิทคอยน์) หรือ Ethereum (อีเธอเรียม) ด้วย เพราะความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เหล่านี้ก็สะท้อนบรรยากาศการลงทุนโดยรวม และบางครั้งก็ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกันได้
**ข้อควรระวัง: การลงทุนมีความเสี่ยง!**
เรื่องนี้สำคัญที่สุด และผมในฐานะคนเล่าเรื่องการเงินต้องเน้นย้ำให้ชัดๆ ครับ การซื้อขาย ตราสารทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น อนุพันธ์ทางการเงิน หรือแม้แต่ เงินดิจิทอล มี ความเสี่ยง สูง มากนะครับ คุณอาจ สูญเสีย เงินลงทุน บางส่วน หรือทั้งหมดได้เลย ราคาของสินทรัพย์เหล่านี้ผันผวนได้รุนแรงมากๆ จากปัจจัยสารพัด ทั้งเรื่องการเงิน กฎหมาย หรือแม้แต่การเมือง
ข้อมูลและราคาที่คุณเห็นตามเว็บไซต์ต่างๆ อาจจะไม่ใช่ ราคาเรียลไทม์ หรือ เที่ยงตรงแม่นยำ 100% เสมอไปนะครับ บางทีมันเป็นแค่ ราคาชี้นำ เท่านั้น ไม่เหมาะกับการเอาไปใช้ตัดสินใจซื้อขายแบบนาทีต่อนาที
**ก่อนตัดสินใจลงทุนอะไรก็ตาม:**
* **ตระหนักถึงความเสี่ยงและต้นทุน:** เข้าใจให้ถ่องแท้ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะลงทุนมีความเสี่ยงอะไรบ้าง และมีต้นทุน ค่าธรรมเนียม อะไรบ้าง
* **รู้จักตัวเอง:** พิจารณา วัตถุประสงค์การลงทุน ของคุณคืออะไร? คุณมีประสบการณ์แค่ไหน? และที่สำคัญ คุณ ยอมรับความเสี่ยง ได้มากน้อยแค่ไหน? ถ้าคุณเป็นคนรับความเสี่ยงได้น้อย การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงก็อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
* **ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:** ถ้าไม่แน่ใจ หรือยังมีความรู้ไม่มากพอ ควรขอ คำแนะนำทางวิชาชีพ จากผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับอนุญาตครับ
จำไว้เสมอว่า ข้อมูลที่เราเห็นไม่ว่าจะเป็น นิ เค อิ 225 เช้า นี่ หรือดัชนีอื่นๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ การศึกษาข้อมูลรอบด้าน ทำความเข้าใจในสินทรัพย์ที่จะลงทุน และการประเมินความเสี่ยงของตัวเอง เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการลงทุนที่ยั่งยืนครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเดินทางในโลกการเงินครับ!