
เอาล่ะครับคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผมในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงินที่ชอบเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายๆ เหมือนเม้าท์กับเพื่อนสนิท จะพาไปทำความรู้จักกับ “ฮั่งเส็ง” หรือ Hang Seng Index (HSI) ที่เราเห็นตัวเลขวิ่งๆ ขึ้นๆ ลงๆ บนหน้าจอกันบ่อยๆ โดยเฉพาะตอน ฮั่งเส็งบ่ายดูยังไง ให้พอเข้าใจบ้างนะ
เคยสงสัยไหมครับว่า ไอ้เจ้าตัวเลขที่ชื่อว่า “ดัชนีฮั่งเส็ง” นี่มันคืออะไรกันแน่? ทำไมบางวันขึ้นเยอะ บางวันลงฮวบ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการลงทุนของเราหรือเปล่า?
ลองนึกภาพตามนะครับ ตลาดหุ้นฮ่องกงนี่ก็เหมือนสนามกีฬาใหญ่ๆ ที่มีบริษัทเก่งๆ จากทั้งฮ่องกงเองและจากจีนแผ่นดินใหญ่มารวมตัวกันค้าขาย ซื้อหุ้น ขายหุ้นกัน ดัชนีฮั่งเส็ง หรือ Hang Seng Index (HSI) เนี่ย ก็เหมือนกับ “คะแนนรวม” ของทีมดาวเด่นในสนามแห่งนี้แหละครับ เขาเอาหุ้นของบริษัทชั้นนำประมาณ 60 ตัว (ตัวเลขอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้นะ อย่างปี 2022 เคยมีถึง 66 ตัว) ที่ซื้อขายกันอย่างคึกคักในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมารวมคำนวณเพื่อดูว่าภาพรวมของ “ทีม” นี้เป็นยังไงบ้าง
ดัชนีฮั่งเส็งนี้มีประวัติยาวนานพอสมควรนะ เริ่มมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1969 โน่นแล้ว และที่สำคัญคือ มันสะท้อนภาพรวมของตลาดหุ้นฮ่องกงได้ดีมาก เพราะมูลค่าของบริษัทที่อยู่ในดัชนีนี้คิดเป็นสัดส่วนถึงประมาณ 65% ของมูลค่าตลาดหุ้นฮ่องกงทั้งหมดเลยทีเดียวครับ
แล้วทำไมคนทั่วโลกถึงสนใจดัชนีฮั่งเส็งล่ะ? เหตุผลหลักๆ เลยก็คือ ตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นเหมือน “ประตู” ด่านแรกที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาทำความรู้จักกับบริษัทใหญ่ๆ ของจีนและฮ่องกงได้ง่ายกว่าการเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้หรือเซินเจิ้นโดยตรงครับ เรียกว่าเป็น Free-float Market หรือตลาดที่เปิดกว้างให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ค่อนข้างสะดวก มันเลยเป็นดัชนีที่สะท้อนภาพธุรกิจทั้งจากฝั่งเอเชียและฝั่งตะวันตกที่มาเชื่อมโยงกันที่ฮ่องกงนี่แหละครับ

ถ้าลองเอาดัชนีฮั่งเส็งไปเทียบกับ ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (ที่เซี่ยงไฮ้กับเซินเจิ้น) จะเห็นความต่างที่น่าสนใจครับ ดัชนี CSI 300 ประกอบด้วยหุ้น A-Shares 300 ตัว สะท้อนภาพตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้กว้างกว่า มีบริษัทหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบตเตอรี่ ประกันภัย ธนาคาร ในขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งจะค่อนข้างโดดเด่นและมีน้ำหนักเยอะในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและกลุ่มการเงินเป็นหลักเลยครับ เช่น บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังอย่าง Tencent (เทนเซ็นต์), Alibaba (อาลีบาบา), Meituan (เหมยถวน) หรือสถาบันการเงินใหญ่อย่าง HSBC (เอชเอสบีซี), AIA (เอไอเอ) เป็นต้น การที่มันกระจุกตัวในบางกลุ่มแบบนี้ ก็อาจจะทำให้มันอ่อนไหวกับข่าวสารในกลุ่มนั้นๆ มากเป็นพิเศษด้วยนะ
ทีนี้มาถึงคำถามยอดฮิตว่า ฮั่งเส็งบ่ายดูยังไง หรือจริงๆ คือจะดูฮั่งเส็งยังไงให้พอรู้เรื่องนั่นแหละครับ
การดูดัชนีฮั่งเส็งก็เหมือนกับการดู “คะแนน” ของทีมฟุตบอลนั่นแหละครับ เราต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน ไม่ใช่แค่ตัวเลข ณ ตอนนั้นอย่างเดียว
1. **ดูตัวเลขปัจจุบันและแนวโน้ม:** แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องดูคือ ตัวเลขดัชนี ณ ตอนนี้เป็นเท่าไหร่ เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า หรือเทียบกับตอนเช้า (สำหรับรอบบ่าย) เราสามารถดูกราฟการเคลื่อนไหวของดัชนีได้แบบเรียลไทม์เลยนะครับ มีให้เลือกดูหลายช่วงเวลา ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ไปจนถึงรายปีหรือ 5 ปี เพื่อดูภาพรวมระยะยาว การดูแนวโน้มว่ากำลังขึ้น กำลังลง หรือกำลังนิ่งๆ ก็สำคัญครับ
2. **ดูองค์ประกอบหลัก:** ลองดูว่าบริษัทใหญ่ๆ ที่มีน้ำหนักเยอะๆ ในดัชนีอย่างพวกหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นการเงิน วันนั้นราคาเป็นยังไงบ้าง ถ้าหุ้นตัวใหญ่ๆ พวกนี้ขึ้น ดัชนีฮั่งเส็งก็มักจะขึ้นตามไปด้วยครับ และอย่างที่บอกไป ดัชนีฮั่งเส็งมีการคำนวณตามมูลค่าตลาดของหุ้นแบบปรับด้วย Free-float และมีการจำกัดน้ำหนักของหุ้นแต่ละตัวไม่ให้ตัวใดตัวหนึ่งมีอิทธิพลมากเกินไป (แต่ก็ยังเห็นชัดว่าหุ้นใหญ่มีผลเยอะอยู่ดีนะ)
3. **ดูตามกลุ่มอุตสาหกรรม:** เว็บไซต์ข้อมูลดัชนีหลายแห่งให้เราเลือกดูกราฟแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมได้ด้วยนะครับ เช่น ดัชนีฮั่งเส็งเทคโนโลยี (HSI TECH), ดัชนีฮั่งเส็งการเงิน (HSI Finance) การดูแบบแยกกลุ่มจะช่วยให้เราเข้าใจว่า วันนั้นกลุ่มไหนกำลังนำตลาด หรือกลุ่มไหนกำลังฉุดตลาดลงครับ
4. **ดูข้อมูลทางเทคนิค (ถ้าสนใจ):** สำหรับคนที่ชอบดูกราฟเชิงลึกหน่อย ก็จะมีพวกเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Indicators) ต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ออสซิลเลเตอร์ (Oscillators), หรือ ไพวอท (Pivots) เครื่องมือพวกนี้จะช่วยบอก “สัญญาณ” คร่าวๆ ว่าตอนนี้ตลาดมี “แรงซื้อ” เยอะ หรือ “แรงขาย” เยอะ อยู่ในภาวะ “เป็นกลาง” หรือมี “แรงซื้อ/ขายรุนแรง” แต่ต้องจำไว้ว่านี่เป็นแค่การวิเคราะห์จากสถิติในอดีตและแพทเทิร์นที่เคยเกิดขึ้น ไม่ใช่คำทำนายอนาคตที่ถูกต้อง 100% นะครับ

การที่ดัชนีฮั่งเส็งมีการคำนวณและเผยแพร่แบบเรียลไทม์ทุก 2 วินาทีในช่วงเวลาซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ก็ทำให้เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิดทำการครับ ซึ่งรอบบ่ายของตลาดหุ้นฮ่องกงก็เป็นช่วงที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเป็นช่วงที่ตลาดทั้งฝั่งเอเชียและฝั่งยุโรป/อเมริกากำลังเริ่มคึกคัก หรือได้รับอิทธิพลจากข่าวสารที่ออกมาระหว่างวัน
ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมครับ แต่ก่อนที่จะคิดจะลงทุนในดัชนีฮั่งเส็ง หรือเครื่องมือทางการเงินใดๆ ที่อิงกับดัชนีนี้ มีเรื่องสำคัญมากๆ ที่ต้องเน้นย้ำตัวโตๆ เลย นั่นคือเรื่องของ **ความเสี่ยง**
การซื้อขายตราสารทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ดัชนี หรือแม้แต่เงินดิจิทอล (Digital Assets) มีความเสี่ยง “สูงมาก” ครับ ไม่ใช่ว่าจะเหมาะกับนักลงทุนทุกคน ข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง รวมถึงข้อมูลที่เรากำลังอ้างอิงถึงนี้ ก็ย้ำชัดเจนว่า คุณอาจจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด หรือบางส่วนได้เลย
ราคาของพวกนี้ผันผวนมาก และได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้เลยครับ ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางการเงิน นโยบาย หรือกฎหมายกำกับดูแลจากรัฐบาล หรือแม้แต่เหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆ ก็มีผลหมด ยิ่งถ้ามีการซื้อขายโดยใช้มาร์จิน (Margin Trading) หรือการยืมเงินมาลงทุน ความเสี่ยงทางการเงินก็จะยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกครับ
ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจลงทุนอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับฮั่งเส็ง หรือตลาดหุ้นฮ่องกง ควรต้องตระหนักถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบที่สุดครับ ถามตัวเองก่อนว่า “วัตถุประสงค์การลงทุน” ของเราคืออะไร? เรามี “ระดับประสบการณ์” ในการลงทุนมากแค่ไหน? และที่สำคัญ เรา “ยอมรับความเสี่ยง” ในระดับไหนได้บ้าง? ถ้ายังไม่แน่ใจ หรือไม่เข้าใจในเรื่องไหน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเพื่อขอคำแนะนำเสมอครับ อย่าเพิ่งเอาเงินเก็บที่หามาอย่างยากลำบากไปเสี่ยงโดยที่เรายังไม่พร้อมนะ
ช่องทางการลงทุนที่อิงกับดัชนีฮั่งเส็งที่เราพอจะเข้าถึงได้โดยไม่ต้องไปซื้อหุ้นรายตัวทั้งหมด ก็มักจะเป็นผ่านเครื่องมืออย่าง กองทุนรวมดัชนี หรือ ETF (Exchange Traded Fund) ที่ลงทุนตามดัชนีฮ่องกงโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นพวกดัชนีฮั่งเส็ง Futures (ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก) การลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนี ก็เหมือนเราซื้อ “ตะกร้า” หุ้นที่ผู้จัดการกองทุนจัดไว้ให้เลียนแบบดัชนีฮั่งเส็งนี่แหละครับ ทำให้เราได้กระจายความเสี่ยงไปในหุ้นหลายๆ ตัวที่อยู่ในดัชนีนั้นๆ
นอกจากนี้ ต้องระวังเรื่องข้อมูลและราคาที่เราเห็นด้วยนะครับ บางครั้งข้อมูลหรือราคาที่เราได้มาจากบางแหล่ง อาจจะไม่ใช่แบบเรียลไทม์เป๊ะๆ หรืออาจจะไม่เที่ยงตรงเสมอไป เพราะบางทีอาจจะมาจากผู้ดูแลสภาพคล่อง ซึ่งราคาที่แสดงอาจแตกต่างจากราคาซื้อขายจริงในตลาดและเป็นเพียงราคาชี้นำเท่านั้น ผู้ให้ข้อมูลพวกนี้ก็มักจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายหรือการพึ่งพาข้อมูลนั้นๆ ครับ และแน่นอนว่า ข้อมูลที่เราอ่านจากที่ไหนก็ตาม รวมถึงบทความนี้ด้วย ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนส่วนบุคคลนะครับ
สรุปแล้ว ดัชนีฮั่งเส็งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญมากๆ ของตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจฮ่องกงและจีน รวมถึงเป็นประตูให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนได้ง่ายขึ้น การติดตามความเคลื่อนไหวของมัน โดยเฉพาะในช่วง ฮั่งเส็งบ่ายดูยังไง ให้พอเข้าใจ ก็ต้องดูทั้งตัวเลขปัจจุบัน แนวโน้ม องค์ประกอบหลักๆ และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ประกอบกัน
⚠️ **คำเตือนส่งท้าย:** การลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารทางการเงินมีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนด้วยเงินที่พร้อมจะสูญเสียเท่านั้น หากไม่มั่นใจ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินเสมอครับ อย่าลืมว่าข้อมูลที่คุณเห็นอาจจะไม่ใช่ราคาซื้อขายจริง และการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งยืนยันผลตอบแทนในอนาคตนะครับ