เอาล่ะครับ ในฐานะนักเขียนคอลัมน์การเงินที่คร่ำหวอดมานาน ผมชอบที่จะเล่าเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้เข้าใจง่ายเหมือนเม้าท์กับเพื่อน ลองมาเจาะลึกเรื่องกองทุนอีทีเอฟตัวหนึ่งที่กำลังอยู่ในความสนใจของหลายคนกันดูนะครับ
—
**กองทุน Invesco NASDAQ 100 อีทีเอฟ (QQQM): เพื่อนซี้หุ้นเทคฯ ที่หลายคนอยากรู้จัก**
ช่วงนี้เดินไปไหนมาไหน หรือเปิดดูข่าวการเงินบนโลกออนไลน์ เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินคำว่า “หุ้นเทคฯ” กันบ่อยๆ ใช่ไหมครับ? พวกบริษัทใหญ่ๆ ที่เป็นหัวหอกด้านนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่เราใช้ คอมพิวเตอร์ที่เราทำงาน หรือแม้แต่ระบบคลาวด์ที่เก็บข้อมูลของเรา บริษัทพวกนี้มักจะจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่ชื่อว่า NASDAQ (นาสแด็ก) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมตัวของบริษัทสายเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับโลก
ทีนี้ หลายคนอาจจะอยากลงทุนในหุ้นเทคฯ เหล่านี้บ้าง แต่จะให้ไปเลือกซื้อหุ้นทีละตัวก็คงปวดหัวน่าดู เพราะมีเป็นร้อยเป็นพันบริษัท ไหนจะต้องตามข่าว ไหนจะต้องวิเคราะห์งบการเงิน ยุ่งยากไปหมดใช่ไหมครับ?
นี่แหละครับ คือที่มาว่าทำไม “กองทุนรวมอีทีเอฟ” (Exchange Traded Fund: ETF) ถึงเข้ามามีบทบาท เพราะมันเหมือนกับการที่เราซื้อ “ตะกร้า” ที่รวบรวมหุ้นหลายๆ ตัวไว้ในนั้น ด้วยเงินลงทุนเพียงก้อนเดียว เราก็ได้เป็นเจ้าของหุ้นในตะกร้านั้นตามสัดส่วนไปเลย
และถ้าพูดถึงการลงทุนในหุ้นเทคฯ ที่อยู่ในดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งเป็นดัชนีที่รวมเอา 100 บริษัทขนาดใหญ่สุดที่ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินในตลาด NASDAQ มาไว้ด้วยกัน หนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนนิยมใช้กันทั่วโลกก็คือ กองทุนอีทีเอฟที่อิงกับดัชนีนี้ครับ
แล้ว invesco nasdaq 100 etf คือ อะไร? ถ้าให้เรียกแบบเต็มๆ ก็คือ “กองทุนอีทีเอฟ Invesco NASDAQ 100” ครับ ซึ่งมีสัญลักษณ์ย่อในการซื้อขายที่เรารู้จักกันดีว่า **QQQM** (คิว-คิว-คิว-เอ็ม) กองทุนนี้บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการกองทุนชื่อ Invesco (อินเวสโก) โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี NASDAQ-100 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ลองนึกภาพง่ายๆ ครับ ดัชนี NASDAQ-100 เหมือนกับ “ลิสต์รายชื่อ” 100 บริษัทดาวเด่นในตลาด NASDAQ ที่ไม่ใช่แบงก์หรือบริษัทการเงิน ส่วนกองทุน QQQM นี้ก็มีนโยบายที่จะเข้าไป “ซื้อหุ้น” ของบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในลิสต์นั้นอย่างน้อย 90% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่กองทุนมี เพื่อให้การเคลื่อนไหวของกองทุนเหมือนกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิงนั่นเองครับ
กองทุนนี้ไม่ได้ซื้อหุ้นค้างไว้เฉยๆ นะครับ ตัวดัชนี NASDAQ-100 เองก็มีการปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ มีการ “ปรับสมดุล” น้ำหนักของแต่ละหุ้นในตะกร้าทุกๆ ไตรมาส และมีการ “ปรับองค์ประกอบ” คัดเลือกบริษัทเข้าออกทุกๆ ปี ซึ่งกองทุน QQQM ก็จะต้องปรับพอร์ตตามไปด้วย เพื่อให้ยังคงติดตามดัชนีได้อย่างแม่นยำ นี่เป็นกลไกปกติของกองทุนประเภท Passive ETF ครับ
ทีนี้หลายคนคงอยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่า ในตะกร้า QQQM นี้มี “อะไรเด็ดๆ” ซ่อนอยู่บ้าง? ถ้าดูจากข้อมูลล่าสุดที่ผมมี (ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2568) สิบอันดับแรกของหุ้นที่กองทุนนี้เข้าไปลงทุน ก็คือบรรดาขาใหญ่ในวงการเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เรารู้จักกันดีนี่แหละครับ เรียงตามสัดส่วนการลงทุนจากมากไปน้อย ก็ได้แก่ แอปเปิล อิงค์ (Apple Inc.) คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 9% ตามมาติดๆ ด้วย เอ็นวิเดีย คอร์ปอเรชั่น (NVIDIA Corp) ที่เป็นผู้นำด้านชิปสำหรับ AI และกราฟิก ซึ่งกินสัดส่วนไปกว่า 8% จากนั้นก็มี ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (Microsoft Corp) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และคลาวด์เจ้าใหญ่, แอมะซอน ดอท คอม อิงค์ (Amazon.com Inc) เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซและคลาวด์, บรอดคอม อิงค์ (Broadcom Inc) บริษัทเทคโนโลยีสารพัด, เมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์ (Meta Platforms Inc) เจ้าของ Facebook/Instagram, เทสลา อิงค์ (Tesla Inc) ผู้นำรถยนต์ไฟฟ้า, คอสท์โค โฮลเซล คอร์ป (Costco Wholesale Corp) ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ (สังเกตไหมว่ามีนอกกลุ่มเทคฯ บ้างเหมือนกัน แต่อยู่ในดัชนี), เน็ตฟลิกซ์ อิงค์ (Netflix Inc) บริการสตรีมมิ่งยอดนิยม และ อัลฟาเบท อิงค์ (Alphabet Inc) บริษัทแม่ของ Google นั่นเองครับ
จะเห็นได้ว่า การลงทุนใน QQQM ก็เหมือนกับการที่เราได้เป็นเจ้าของเศษเสี้ยวของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำเหล่านี้รวมกัน ทำให้พอร์ตของเรามีความหลากหลาย (ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นเทคโนโลยี) โดยไม่ต้องไปไล่ซื้อหุ้นทีละตัวให้เหนื่อย แถมสัดส่วนการลงทุนในแต่ละบริษัทก็เป็นไปตามน้ำหนักของบริษัทนั้นๆ ในดัชนี NASDAQ-100 อีกด้วย
แล้วถ้าถามถึง “ราคา” ล่ะครับ? จากข้อมูลล่าสุดที่ผมได้มา (ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2568) ราคาล่าสุดของ QQQM อยู่ที่ประมาณ 214.09 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหน่วยครับ ราคานี้มีการขยับขึ้นลงตลอดทั้งวัน อย่างวันนั้นราคาเปิดอยู่ที่ 216.70 ดอลลาร์ ช่วงระหว่างวันราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 216.77 ดอลลาร์ และลงต่ำสุดที่ 213.00 ดอลลาร์ครับ ถ้าดูกรอบใหญ่ขึ้น ในรอบ 52 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ QQQM เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 222.64 ดอลลาร์ และลงไปต่ำสุดที่ 165.72 ดอลลาร์ ซึ่งก็บอกเราได้ว่า กองทุนนี้มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างกว้างทีเดียวครับ สะท้อนถึงความผันผวนของตลาดหุ้นเทคฯ นั่นเอง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจเรื่อง “เงินปันผล” ด้วย กองทุน QQQM ก็มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนเช่นกันครับ แม้ว่าหุ้นกลุ่มเทคฯ ส่วนใหญ่จะเน้นการเติบโตและมักจะนำกำไรกลับไปลงทุนต่อในบริษัทมากกว่าการจ่ายปันผล แต่กองทุนก็ได้รับปันผลจากหุ้นบางตัวที่ถืออยู่และนำมาจ่ายคืนให้กับนักลงทุนครับ จากข้อมูลล่าสุด เงินปันผลในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (Trailing Twelve Months: TTM) อยู่ที่ 1.2705 ดอลลาร์ต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลประมาณ 0.59% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับหุ้นปันผลสูงๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น แต่สำหรับนักลงทุนที่เน้นการเติบโตจากราคาหุ้น การได้รับปันผลก็นับเป็นโบนัสเล็กๆ น้อยๆ ครับ การจ่ายล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2567) มีการจ่ายเงินปันผล 0.31031 ดอลลาร์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นรายได้ปกติทั้งหมดครับ
แล้วผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง? นี่คือคำถามยอดฮิตที่นักลงทุนทุกคนอยากรู้ใช่ไหมครับ สิ่งสำคัญคือต้องย้ำเตือนกันก่อนว่า ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ใช่สิ่งที่จะรับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ 100% นะครับ แต่ก็เป็นข้อมูลให้เราเอาไว้พิจารณาได้
จากข้อมูลที่ผมได้มา มีการบันทึกผลการดำเนินงานของ QQQM ณ สิ้นปี 2567 (วันที่ 31 ธันวาคม 2567) และ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 (วันที่ 31 มกราคม 2568) ลองมาดูกันครับ
* **ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2568:**
* ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (Year-to-Date: YTD): 2.25 %
* ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี: 26.15 %
* ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี (แบบทบต้นต่อปี): 13.70 % ต่อปี
* ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (แบบทบต้นต่อปี): 15.07 % ต่อปี
* **ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567:**
* ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD): 25.70 % (อันนี้คือผลตอบแทนรวมทั้งปี 2567)
* ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี: 25.70 %
* ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี (แบบทบต้นต่อปี): 9.57 % ต่อปี
* ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (แบบทบต้นต่อปี): 14.79 % ต่อปี
จะเห็นได้ว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา กองทุน QQQM ทำผลตอบแทนได้ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียวครับ สะท้อนถึงการฟื้นตัวหรือการเติบโตของหุ้นกลุ่มเทคฯ แต่ถ้าดูผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีในระยะยาว 3 ปี หรือตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ก็ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจครับ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เราวัด และตลาดหุ้นก็มีความผันผวนขึ้นลงเสมอครับ
ถ้าลองดูสัญญาณการซื้อขายจากบทวิเคราะห์ทางเทคนิคบางแห่ง (ซึ่งใช้เครื่องมืออย่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และตัวชี้วัดอื่นๆ) จากข้อมูลที่ได้มา สัญญาณซื้อ/ขายประจำวันบ่งชี้ว่า “ซื้อทันที” ครับ แต่! ตรงจุดนี้ต้องย้ำเตือนอย่างหนักแน่นว่า การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง และสัญญาณที่ได้มาอาจไม่ใช่ข้อมูลเรียลไทม์หรือไม่แม่นยำ 100% เสมอไปครับ ตลาดหุ้นซับซ้อนกว่านั้นมาก อย่าใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจซื้อขายแบบทันทีทันใดโดยปราศจากการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นและปัจจัยพื้นฐานประกอบเด็ดขาดครับ
มาถึงหัวข้อสำคัญที่ห้ามมองข้ามเลยครับ นั่นคือเรื่อง “ความเสี่ยง” และ “ข้อจำกัดของข้อมูล” การลงทุนในตราสารการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยงสูงมากๆ ครับ และกองทุนอย่าง QQQM ที่เน้นลงทุนในหุ้นเทคฯ ซึ่งมักมีความผันผวนสูงกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมดั้งเดิม ก็มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วยครับ
คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดหรือบางส่วนได้ และการลงทุนประเภทนี้อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกคนที่รับความเสี่ยงไม่ได้สูงครับ ราคาของ QQQM อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมาย นโยบายการเงินของธนาคารกลาง หรือแม้แต่เหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่คาดคิด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้ราคาหุ้นและราคาหน่วยลงทุนของกองทุนผันผวนอย่างรุนแรงได้ครับ
นอกจากนี้ หากคุณมีการใช้ “มาร์จิน” (Margin) หรือเงินกู้ยืมในการซื้อขาย ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้สูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวครับ เพราะหากราคาผิดทาง คุณอาจถูกเรียกหลักประกันเพิ่มและต้องขายตัดขาดทุน ทำให้ขาดทุนหนักกว่าการใช้เงินตัวเองทั้งหมดครับ
ส่วนเรื่องข้อมูลและราคาต่างๆ ที่เราเห็นตามเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการซื้อขาย โปรดทราบว่าข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่ใช่แบบเรียลไทม์เสมอไป หรืออาจมีความคลาดเคลื่อนได้ ครับ ข้อมูลบางส่วนอาจมาจากผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) และอาจแตกต่างจากราคาซื้อขายจริงในตลาด ณ เวลานั้นๆ เป็นเพียงราคาชี้นำเบื้องต้นเท่านั้น ไม่เหมาะกับการใช้เพื่อตัดสินใจซื้อขายในทันทีนะครับ ข้อมูลต้นฉบับภาษาอังกฤษจะมีความสำคัญและถูกต้องเหนือกว่าเวอร์ชันภาษาไทยเสมอหากมีความขัดแย้งกัน และที่สำคัญมากๆ คือ บริษัทที่ให้ข้อมูล (อย่าง Fusion Media ที่เป็นแหล่งข้อมูลของผมในครั้งนี้) และผู้ให้ข้อมูลอื่นๆ ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายของคุณ หรือจากการที่คุณไปพึ่งพาข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจครับ ข้อมูลทั้งหมดมีไว้เพื่อเป็นแนวทางประกอบการศึกษาและวิเคราะห์เท่านั้น
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนใน QQQM หรือตราสารการเงินใดๆ ก็ตาม คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน ทำความเข้าใจในตัวสินทรัพย์ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และประเมินความพร้อมของตัวเองอย่างรอบด้านครับ อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ และอย่าลงทุนด้วยเงินที่คุณยอมสูญเสียไม่ได้เด็ดขาดครับ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอจะเห็นภาพแล้วว่า invesco nasdaq 100 etf คือ อะไร มีส่วนประกอบและผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือมีความเสี่ยงอะไรบ้างครับ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ที่อยู่ในตลาด NASDAQ และต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงหุ้นเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเลือกหุ้นรายตัว และรับความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นเทคฯ ได้ กองทุน QQQM ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าศึกษาครับ
**คำแนะนำส่งท้ายสำหรับนักลงทุน:**
1. **ทำความเข้าใจตัวเองก่อน:** ถามตัวเองว่า คุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหน? มีเป้าหมายการลงทุนอย่างไร? ระยะเวลาในการลงทุนนานแค่ไหน?
2. **ศึกษาให้ลึกกว่านี้:** ข้อมูลที่ผมให้มาเป็นเพียงภาพรวมเบื้องต้น คุณควรเข้าไปดูรายละเอียดของกองทุน QQQM เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของ Invesco หรือจากแหล่งข้อมูลการเงินที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ศึกษาค่าธรรมเนียมกองทุน นโยบายการลงทุนแบบเต็มๆ และเอกสารชี้ชวน (Prospectus) ครับ
3. **มองภาพรวม:** อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากสัญญาณเทคนิค หรือผลตอบแทนในอดีตเพียงอย่างเดียว ให้ดูแนวโน้มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ภาพรวมเศรษฐกิจ และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มนี้ด้วย
4. **จัดสรรเงินลงทุน:** หากตัดสินใจลงทุน ควรแบ่งเงินลงทุนใน QQQM ให้เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนโดยรวม ไม่ควรทุ่มเงินทั้งหมดไปที่สินทรัพย์เดียว เพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ด้วย
5. **ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:** หากไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจ ควรปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินที่มีใบอนุญาต เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของคุณเป็นการส่วนตัวครับ
**⚠️ คำเตือน:** การลงทุนในกองทุน QQQM หรือตราสารการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูง ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน หากเงินลงทุนส่วนนี้เป็นเงินที่คุณจำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น หรือเป็นเงินที่คุณยอมสูญเสียไม่ได้ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ หรืออาจไม่เหมาะกับการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงแบบนี้ครับ โดยเฉพาะ หาก資金流動性不高 (หากสภาพคล่องทางการเงินของคุณไม่สูง) การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้คุณต้องถอนเงินออกในเวลาที่ไม่เหมาะสมและขาดทุนได้ ควรประเมินสภาพคล่องของตัวเองให้ดีก่อนตัดสินใจครับ
ขอให้นักลงทุนทุกท่านโชคดีกับการเดินทางในโลกการลงทุนนะครับ!
