
เห็นข่าวหุ้นเทคฯ ทำนิวไฮกันรัวๆ จนหลายคนรู้สึกว่าตกรถ หรือบางคนก็ลุ้นอยู่บนดอยใช่ไหมครับ/คะ? ช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นนวัตกรรมและการเติบโตสูง ซึ่งถ้าพูดถึงกลุ่มนี้ เราคงหนีไม่พ้นการพูดถึงพระเอกของเราในวันนี้ นั่นก็คือ ดัชนี Nasdaq 100 (Nasdaq 100 Index) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า NDX นั่นเอง
ถ้าเปรียบตลาดหุ้นเป็นเหมือนเมืองใหญ่ๆ ดัชนี Nasdaq 100 ก็เหมือนกับย่านนวัตกรรมสุดล้ำ ที่รวมเอาบริษัทเจ๋งๆ นอกกลุ่มการเงิน 100 แห่งที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นแนสแด็กมาไว้ด้วยกัน ลองนึกภาพบริษัทที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Apple, Microsoft, Amazon พวกนี้คือสมาชิกตัวท็อปของดัชนีนี้เลยครับ/คะ ดังนั้น ถ้าดัชนีนี้ปรับตัวขึ้น ก็บอกได้กลายๆ ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมกำลังไปได้สวย เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำคัญที่นักลงทุนที่เน้นการเติบโตต้องจับตามองเลยล่ะครับ/คะ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเห็นข่าวว่า ดัชนี Nasdaq 100 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เหมือนกับนักกีฬาที่กำลังฟอร์มดีสุดๆ แล้วอะไรที่ทำให้เค้าวิ่งฉิวขนาดนี้ล่ะ? ปัจจัยหลักๆ มีอยู่ 2 อย่างที่กำลังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญครับ/คะ อย่างแรกเลยคือ กระแสเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ครับ/คะ ความตื่นเต้นเกี่ยวกับพัฒนาการของ AI ที่คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนโลกและสร้างรายได้มหาศาลให้กับบริษัทเทคโนโลยี ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน เหมือนทุกคนกำลังเห่อของเล่นใหม่สุดล้ำนั่นแหละครับ/คะ

อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่อง เงินเฟ้อ (Inflation) ครับ/คะ ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดที่ออกมาดูแล้วมีทิศทางชะลอตัวลง เหมือนอากาศที่ค่อยๆ เย็นลง ไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงก่อนๆ เมื่อเงินเฟ้อลดลง ความกังวลของตลาดต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางก็ลดลงตามไปด้วย ซึ่งนี่เป็นข่าวดีมากๆ สำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการเติบโต เพราะโดยธรรมชาติแล้วหุ้นกลุ่มนี้จะอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยมากเป็นพิเศษครับ/คะ อัตราดอกเบี้ยต่ำๆ เหมือนเป็นปุ๋ยชั้นดีที่ช่วยให้ต้นกล้าของการเติบโตงอกเงยได้ไวขึ้นนั่นเอง
แต่ชีวิตการลงทุนก็ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไปนะครับ/คะ ตลาดหุ้นทั่วโลกเองก็ยังคงเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกอยู่เรื่อยๆ ลองนึกภาพพายุที่มาจากนอกประเทศ อย่างเช่น มาตรการภาษีใหม่ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อย่างมาตรการภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ก็เคยสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกมาแล้ว ทำให้มูลค่าตลาดหายไปหลายแสนล้านดอลลาร์ในพริบตา และยังกดดันไปถึงตลาดฟิวเจอร์สและแม้กระทั่ง Bitcoin ด้วยครับ/คะ นี่แสดงให้เห็นว่านโยบายการค้าระหว่างประเทศมีผลกระทบมหาศาลจริงๆ ต่อบรรยากาศการลงทุน รวมถึงต่อ ดัชนี Nasdaq 100 ด้วย
ในโลกของ ดัชนี Nasdaq 100 เองก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนะครับ/คะ ไม่ใช่ว่ารายชื่อ 100 บริษัทจะคงที่ตลอดไป มีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบดัชนีอยู่เรื่อยๆ ตามเกณฑ์มูลค่าตลาดและคุณสมบัติ ล่าสุดก็เพิ่งมีการประกาศนำหุ้นของบริษัท Arm Holdings เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ และก็มีกระแสคาดการณ์ว่าหุ้นของ Super Micro ซึ่งเป็นอีกบริษัทที่อยู่ในกระแส AI อาจจะได้เข้ามาร่วมวงด้วย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สำคัญอย่างไร? ก็เพราะว่ากองทุนต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงดัชนีนี้ (เช่น กองทุน ETF ชื่อดังอย่าง Invesco QQQ) ก็จะต้องปรับพอร์ตตามไปด้วย ซึ่งส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนในตลาดครับ/คะ

พูดถึงผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิง ดัชนี Nasdaq 100 นี่มีให้เลือกหลากหลายเลยนะครับ/คะ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อหุ้นรายตัวเท่านั้น นักลงทุนมีทางเลือกมากมายในการเข้าถึงหรือบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับดัชนีนี้ ผ่านเครื่องมือทางการเงินต่างๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่ามีกองทุน ETF ที่อิงดัชนีโดยตรง ซึ่งถือเป็นวิธีที่ค่อนข้างง่ายสำหรับนักลงทุนทั่วไป นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อยอย่าง ฟิวเจอร์ส (Futures) หรือ ออปชัน (Options) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีได้ เครื่องมือเหล่านี้เหมือนเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากขึ้น ช่วยให้ยืดหยุ่นในการวางแผนการลงทุนได้มากกว่าเดิม
กลับมาที่เรื่อง นโยบายการเงิน (Monetary Policy) ที่เราเกริ่นไปตอนต้นนะครับ/คะ ตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจกลายเป็นเหมือนตัวกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจตลาดเลยทีเดียว ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดที่ออกมาก็ดูเหมือนจะเข้าทางคนที่กำลังหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Federal Reserve System: Fed) จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็วๆ นี้ เพราะถ้าตลาดแรงงานดูไม่ร้อนแรงเกินไปนัก ก็อาจทำให้เฟดสบายใจขึ้นในการปรับนโยบายให้ผ่อนคลายลงบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการลดดอกเบี้ยเป็นเหมือนยากระตุ้นชั้นดีสำหรับตลาดหุ้นโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีใน ดัชนี Nasdaq 100 ที่ไวต่อเรื่องนี้มากๆ
แต่ในความหวัง ก็มีความกังวลซ่อนอยู่ครับ/คะ นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำหลายคน อย่างคุณ Mohamed El-Erian เองก็เคยออกมาเตือนว่า การที่เฟดรีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดเสมอไป และอาจกลายเป็นชนวนที่นำไปสู่ ภาวะถดถอย (Recession) หรือเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างรุนแรง (Hard-landing) ได้ คือเหมือนจะไปถึงเป้าหมายเร็วๆ แต่เส้นทางอาจจะขรุขระและเจ็บตัวได้นั่นเอง นี่จึงเป็นสิ่งที่ตลาดต้องชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่างความต้องการให้ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นตลาด กับความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
นอกจากข้อมูลการจ้างงานและ เงินเฟ้อ (Inflation) แล้ว ตัวเลขสำคัญอื่นๆ ของ ดัชนี Nasdaq 100 เองก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ราคาปิดก่อนหน้า ราคาเปิด ราคาสูงสุด/ต่ำสุดระหว่างวัน ปริมาณการซื้อขาย หรือแม้แต่ช่วงราคาในรอบ 52 สัปดาห์ ตัวเลขเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวสถานะปัจจุบันและการเคลื่อนไหวของดัชนีได้เป็นอย่างดี เหมือนกับการดูสถิติของนักกีฬาที่เราสนใจ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วงต่างๆ เช่น YTD (Year-to-date: ตั้งแต่ต้นปี), 1Y (1 Year: ในรอบ 1 ปี), หรือ 5Y (5 Years: ในรอบ 5 ปี) ก็เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพใหญ่ว่าดัชนีนี้มี Performance เป็นอย่างไรในอดีต แม้ว่าผลตอบแทนในอดีตจะไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต แต่ก็ช่วยให้เราเข้าใจลักษณะการเคลื่อนไหวของมันได้ดีขึ้นครับ/คะ อย่างข้อมูลที่เห็นก็หลากหลาย ขึ้นลงแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา สะท้อนถึงความผันผวนและการเปลี่ยนแปลงของตลาด
โดยสรุปแล้ว ดัชนี Nasdaq 100 ยังคงเป็นดัชนีที่น่าจับตาและมีบทบาทสำคัญในตลาดหุ้นโลกมากๆ ครับ/คะ การที่มันทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงนี้สะท้อนถึงแรงหนุนจากกระแส AI และตัวเลขเงินเฟ้อที่ดูดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีความอ่อนไหวสูงต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงินของเฟด รวมถึงความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกอย่างมาตรการภาษี หรือแม้แต่ความกังวลเรื่องภาวะถดถอยที่ยังคงอยู่เบื้องหลัง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจหรือกำลังลงทุนใน ดัชนี Nasdaq 100 หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ครับ/คะ ทั้งปัจจัยที่หนุนให้ขึ้น และปัจจัยที่อาจทำให้ตลาดปรับตัวลง การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ AI เงินเฟ้อ การตัดสินใจของเฟด รวมถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
สุดท้ายนี้ ขอเน้นย้ำเตือนว่า การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงเสมอ และความผันผวนเป็นเรื่องปกติของ ดัชนี Nasdaq 100 ครับ/คะ แม้ว่าดัชนีนี้จะดูน่าสนใจและมีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่วงที่ปรับตัวลงแรงๆ
ถ้าคิดจะเข้ามาลุยในดัชนีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นรายตัวในดัชนีนี้ กองทุน ETF หรือเครื่องมืออื่นๆ สำคัญมากๆ คือต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ทำความเข้าใจลักษณะของดัชนี ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ และ ประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ก่อนเสมอ นะครับ/คะ
⚠️ ข้อควรระวัง: หากเน้นลงทุนระยะยาว หรือใช้เครื่องมือที่มี Leverage สูงๆ เช่น ฟิวเจอร์ส (Futures) หรือออปชัน (Options) ที่อ้างอิงกับ ดัชนี Nasdaq 100 ยิ่งต้องระวังเรื่องความผันผวนของราคา และที่สำคัญคือ สภาพคล่องทางการเงินของตัวเอง ให้มากๆ นะครับ/คะ อย่าลงทุนเกินกว่าที่ตัวเองจะรับไหว หรือถ้าตลาดไม่เป็นใจจริงๆ ก็อาจต้องพิจารณาการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างมีสติและประสบความสำเร็จครับ/คะ