ไขข้อสงสัย! set50 วันนี้ ผันผวนหนัก กระทบพอร์ตลงทุนคุณแค่ไหน?

ช่วงนี้เพื่อนๆ นักลงทุนคงจะรู้สึกใจหายใจคว่ำกันบ่อยๆ เพราะตลาดหุ้นไทยที่เคยคึกคักก็ดูจะเจอคลื่นลมแรงซัดเข้ามาเรื่อยๆ หลายคนคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ SET50 วันนี้ หรือในช่วงที่ผ่านมา แล้วเงินลงทุนที่เราใส่ไว้ในกองทุนหรือหุ้นใหญ่ๆ ที่อิงกับ SET50 จะเป็นยังไงต่อไป วันนี้ผมในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงินที่จะมาเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่ายเหมือนคุยกับเพื่อน จะพาไปแกะรอยดูกันครับว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

มาดูภาพรวมตลาดหุ้นไทย SET50 วันนี้ (อิงข้อมูล ณ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘) กันหน่อย ตัวเลขจากตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกเราว่า ดัชนีหลักๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง อย่าง SET Index และ SET50 Index ก็ติดลบนะ ส่วนดัชนี mai ซึ่งเป็นตลาดหุ้นน้องเล็กก็ลดลงหนักสุดเป็นเปอร์เซ็นต์เลย มีแค่ sSET ที่เป็นกลุ่มหุ้นเล็กๆ ที่ดูจะบวกสวนกระแสขึ้นมาได้หน่อย

ลองนับจำนวนหุ้นในตลาด SET ก็เห็นภาพชัดขึ้น หุ้นที่ราคาขึ้นมี ๒๔๘ ตัว หุ้นที่ราคาลงมี ๒๑๑ ตัว และไม่เปลี่ยนแปลงเลยตั้ง ๒๐๐ ตัว เรียกว่าจำนวนหุ้นที่ลงกับขึ้นนี่ใกล้เคียงกันมาก แต่ในตลาด mai ที่ว่าลงแรงๆ เนี่ย หุ้นที่ลงมี ๗๔ ตัว ส่วนหุ้นที่ขึ้นมีแค่ ๗๔ ตัว และไม่เปลี่ยนแปลง ๖๙ ตัว เห็นไหมว่าจำนวนหุ้นที่ลงใน mai เยอะกว่าหุ้นขึ้นชัดเจนเลย

ทีนี้มาเจาะลึก SET50 ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเรื่องนี้หน่อย นอกจากตัวดัชนีที่ปรับลงแล้ว ตลาดอนุพันธ์ที่อิง SET50 อย่าง SET50 Index Futures ก็ผันผวนไม่ใช่เล่นเลยครับ บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักเล่าตรงกันว่าช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนที่ผ่านมา ตลาดฟิวเจอร์ส SET50 นี่มีทั้งช่วงที่อ่อนตัวลงไปเยอะ แกว่งตัวออกข้าง แล้วก็มีจังหวะดีดกลับ ก่อนจะปรับลงมาอีก เรียกว่านั่งรถไฟเหาะเลยทีเดียว การเคลื่อนไหวพวกนี้มันสะท้อนถึงปัจจัยหลายอย่างที่มากระทบ

ปัจจัยภายนอกตัวแรกที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลกันก็คือเรื่องสงครามการค้าที่อาจจะปะทุขึ้นมาอีก เหมือนหนังเรื่องเดิมที่กลับมาฉายใหม่ เพราะสหรัฐฯ เองก็มีท่าทีจะเก็บภาษีเพิ่มกับสินค้าบางอย่างจากต่างประเทศ เรื่องนี้ทำให้บรรยากาศการลงทุนมันดูอึมครึมไปหมด นอกจากนี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ก็ยังเป็นประเด็นที่ทุกคนจับตาดูนะ เดิมทีหลายคนคาดหวังว่าจะมีการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง แต่ตอนนี้เริ่มประเมินกันว่าอาจจะลดน้อยลง หรือช้ากว่าที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ ตรงนี้ก็มีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึง SET50 บ้านเราด้วย ส่วนปัจจัยเฉพาะหน้าอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่ ก็ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของนักลงทุนได้ในระยะสั้นๆ

กลับมาดูปัจจัยภายในประเทศกันบ้าง ตลาดกำลังรอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลว่าจะออกมาเป็นรูปธรรมแค่ไหน จะแรงพอที่จะเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจและตลาดหุ้นได้ไหม ในขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจบางภาคส่วนอย่างภาคการท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะชะลอตัวลงไปหน่อย ก็เป็นอีกแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย SET50 ไม่ค่อยมีแรงบวกเท่าที่ควร

นอกจากเรื่องเศรษฐกิจแล้ว ตลาดหุ้นไทย SET50 ก็มีเรื่องเฉพาะตัวที่ต้องจับตา นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของดัชนี SET50 และ SET100 ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศทุกครึ่งปี อย่างการคาดการณ์สำหรับครึ่งปีแรกของปี ๒๕๖๘ ก็มีรายชื่อหุ้นที่ถูกคาดว่าจะเข้า SET50 อย่างเช่น BANPU, SAWAD, COM7, CCET อะไรแบบนี้ การเปลี่ยนแปลงรายชื่อพวกนี้ทำให้มีแรงซื้อแรงขายหุ้นตัวที่มีชื่อเข้าออกดัชนีเป็นพิเศษ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเหล่านั้นได้โดยตรง

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เองก็มีการปรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าดัชนีให้เข้มงวดขึ้น อย่างการเน้นสภาพคล่องในการซื้อขาย (Turnover ratio) ที่ต้องสูงขึ้น อย่างน้อย ๒% ซึ่งเกณฑ์ใหม่นี้ก็มีผลกับหุ้นใหญ่บางตัวเหมือนกันนะ อย่าง DELTA กับ BJC ที่เคยเป็นประเด็นว่าจะเข้าจะออก SET50 หรือ SET100 ได้ยังไง ก็ต้องมาดูเกณฑ์ใหม่นี้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์พบว่ามีหุ้นใหญ่ใน SET50 ตั้ง ๑๓ ตัว ที่มีค่า P/BV หรือราคาเทียบกับมูลค่าทางบัญชี ต่ำกว่า ๑ เท่า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธนาคารและพลังงาน หุ้นพวกนี้อาจเป็นที่สนใจของนักลงทุนที่มองหาหุ้นพื้นฐานดีราคาถูกก็ได้

แล้วตลาด SET50 ที่ผันผวนแบบนี้ กระทบกับเงินในกระเป๋าเรายังไง? สำหรับนักลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ซึ่งหลายกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้น SET50 เป็นหลัก ก็ต้องยอมรับว่าผลการดำเนินงานในช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมา (อย่างข้อมูล ณ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘) ส่วนใหญ่ยังติดลบ ทั้งในรอบ ๓ เดือน ๖ เดือน หรือแม้แต่ปีล่าสุด นี่ก็สะท้อนภาพตลาด SET50 ที่ไม่สดใสในช่วงนั้นนั่นแหละครับ แต่สำหรับคนที่มองการลงทุนระยะยาวมากๆ ในรอบ ๓ ปี ๕ ปี หรือ ๑๐ ปี บางกองทุนก็ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกอยู่บ้างนะ กองทุน LTF ที่อิง SET50 อย่าง AYFLTF50 เขาก็เน้นลงทุนในหุ้นใหญ่ๆ ตามสัดส่วนใน SET50 นั่นแหละครับ อย่าง ๕ อันดับแรกที่ลงทุนเยอะสุดก็มี ปตท., เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย), แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส, กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, ท่าอากาศยานไทย เห็นไหมว่าล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นที่เราคุ้นชื่อกันทั้งนั้น

นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงมองว่า ตลาดหุ้นไทยและ SET50 ในช่วงนี้ยังคงเผชิญกับความผันผวนอยู่ ปัจจัยหลักที่ต้องจับตาคือทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์อย่าง Call Options และ Put Options ของ SET50 Index ก็เป็นเครื่องมืออีกอย่างที่ช่วยให้นักลงทุนหรือนักวิเคราะห์เห็นภาพการคาดการณ์ทิศทางตลาดของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ได้

สรุปแล้ว SET50 วันนี้ และแนวโน้มในช่วงนี้ ยังคงเป็นภาพของตลาดที่อ่อนไหวต่อข่าวสารทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ การลงทุนในหุ้นใหญ่ที่อยู่ใน SET50 หรือกองทุนที่อิง SET50 จึงยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนสูง หากคุณเป็นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือต้องการใช้เงินลงทุนในระยะเวลาอันใกล้ อาจจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

สำหรับนักลงทุนระยะยาว หรือคนที่ยังสนใจลงทุนใน SET50 หรือกองทุน LTF ที่อิง SET50 ในช่วงนี้ สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทำความเข้าใจปัจจัยที่กระทบตลาด ไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า หรือนโยบายภายในประเทศ การกระจายความเสี่ยงก็ยังเป็นหลักการสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และที่สำคัญที่สุดคือต้องลงทุนด้วยเงินเย็น เงินที่คุณยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในเร็วๆ นี้ครับ

⚠️ การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนในหลักทรัพย์ที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

Leave a Reply