ไขความลับ หุ้น100: ดัชนีชี้วัด หุ้นเด่น ทำเงิน!

เคยไหมคะ ที่นั่งดูข่าวเศรษฐกิจแล้วเห็นตัวเลขดัชนีหุ้นขึ้นๆ ลงๆ จนบางทีก็งงๆ ว่ามันหมายถึงอะไร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับเงินในกระเป๋าเราบ้าง? โดยเฉพาะคำว่า SET100 ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยิน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับดัชนีสำคัญตัวนี้ในตลาดหุ้นไทยกันค่ะ พูดให้ง่าย เหมือนชวนเพื่อนมานั่งคุยเรื่องการลงทุนแบบสบายๆ ไม่ต้องเครียดค่ะ

อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ก็ปิดทำการไป โดยวันนั้นดัชนี SET มีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 1,572 ถึง 1,589 จุด มีการซื้อขายหุ้นรวมกันเป็นปริมาณและมูลค่าที่ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักในตลาดช่วงนั้น ตัวเลขพวกนี้เป็นแค่ภาพรวมของตลาดทั้งตลาดนะคะ ซึ่งในตลาดนี้ก็มีหุ้นอยู่เป็นร้อยเป็นพันตัวเลย

ทีนี้ ตัวเลขที่เราเห็นว่าขึ้นๆ ลงๆ เนี่ย มันก็มาจากหุ้นของบริษัทต่างๆ ที่คนซื้อขายกันนั่นแหละค่ะ แต่จะดูทีละตัวก็คงตาลาย ตลาดหลักทรัพย์เขาเลยสร้าง “ดัชนี” ขึ้นมา เหมือนเป็นค่าเฉลี่ย หรือตัวแทนที่บอกภาพรวมของหุ้นกลุ่มต่างๆ หนึ่งในดัชนีที่สำคัญมากๆ สำหรับบ้านเราก็คือ SET100 นี่แหละค่ะ

แล้ว ‘หุ้น100’ ที่ว่าเนี่ย มันคืออะไรกันแน่? SET100 คือดัชนีที่รวบรวมหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 100 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทยค่ะ เขาคัดเลือกจากหุ้นสามัญที่มีมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) สูง และมีการซื้อขายที่คึกคัก (สภาพคล่องสูง) พูดง่ายๆ ก็คือเป็นหุ้นของบริษัทชั้นนำ 100 แห่งของประเทศเรานั่นเองค่ะ SET100 ถือเป็นมาตรวัดที่ใช้อ้างอิงได้ดีในการดูภาพรวมของหุ้นใหญ่ในไทย เพราะครอบคลุมบริษัทส่วนใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อตลาด

หลายคนอาจจะสงสัยว่า SET100 ต่างจาก SET50 ยังไง? ก็ง่ายๆ เลยค่ะ ถ้า SET100 คือ 100 ตัวท็อป SET50 ก็คือกลุ่มที่ท็อปกว่านั้นไปอีก คือเลือกมาจาก 50 บริษัทแรกในกลุ่ม SET100 นั่นแหละค่ะ นอกจากนี้ยังมีดัชนีอื่นๆ อีกมากมาย เช่น SET100FF หรือ SET50FF ที่คำนวณโดยนำสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float – ฟรีโฟลท) มาปรับด้วย เพื่อให้สะท้อนภาพที่แท้จริงของการซื้อขายในตลาดมากขึ้น

เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้ามาอยู่ใน SET100 ก็มีหลักการที่ชัดเจนค่ะ อย่างแรกเลย ต้องเป็นหุ้นสามัญที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดมาแล้วสักพัก (ไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ต้องอยู่ใน 100 อันดับแรกทั้งในแง่มูลค่าตลาดและปริมาณการซื้อขาย ต้องมีสัดส่วน Free Float มากกว่าหรือเท่ากับ 20% และต้องไม่ใช่หุ้นที่ถูกพักการซื้อขาย (ขึ้นเครื่องหมาย SP) นานเกินไป การคำนวณดัชนี SET100 ก็ใช้วิธีแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของแต่ละบริษัท คือบริษัทไหนใหญ่มาก ก็มีอิทธิพลต่อการขึ้นลงของดัชนีมากกว่าบริษัทที่เล็กกว่าในกลุ่มนั่นเองค่ะ โดยเขามีวันฐานตั้งต้นการคำนวณที่ 30 เมษายน 2548 กำหนดค่าดัชนีวันนั้นไว้ที่ 1,000 จุดค่ะ

SET100 Index บอกอะไรเราบ้าง? หลักๆ เลย มันสะท้อนสถานะภาพรวมของตลาดหุ้นไทยได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ถ้า SET100 ขึ้น ก็แสดงว่าหุ้นใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ราคาขึ้น ถ้าลง ก็แสดงว่าหุ้นใหญ่ส่วนใหญ่ราคาลง เป็นมาตรวัดที่กว้างกว่า SET50 นิดหน่อย และเป็นเกณฑ์อ้างอิงสำคัญสำหรับนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายย่อย หรือนักลงทุนสถาบัน

ทีนี้ ถ้าเราสนใจ อยากจะลงทุนใน ‘หุ้น100’ ต้องทำยังไง? เราไม่สามารถซื้อตัวดัชนี SET100 ได้โดยตรงนะคะ เหมือนเราซื้อทีมฟุตบอลทั้งทีมไม่ได้ แต่เราซื้อหุ้นของนักเตะในทีมได้ หรือซื้อตั๋วดูทั้งทีมได้ การลงทุนใน SET100 ก็คล้ายๆ กันค่ะ เราสามารถลงทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินที่เขาออกแบบมาให้มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีนี้ เช่น กองทุนรวมประเภท ETF (Exchange Traded Fund – กองทุนอีทีเอฟ) อย่างกองทุน ThaiDEX SET100 ETF หรือสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้และรับความเสี่ยงได้สูง ก็อาจจะลงทุนผ่านตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) อย่าง SET 100 Index Futures หรือ Options ได้ค่ะ

ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมคะ แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ การลงทุนใน ‘หุ้น100’ ผ่านเครื่องมือต่างๆ หรือจะลงทุนในหุ้นตัวไหนก็ตามในตลาด มีความเสี่ยงเหมือนกันค่ะ เราต้องตระหนักไว้เสมอว่า การลงทุนในตราสารทางการเงินมีความเสี่ยงสูง อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด เหมือนเวลาเราเดินทาง มีโอกาสถึงที่หมาย แต่ก็มีโอกาสเจออุปสรรคระหว่างทางได้เหมือนกัน

ราคาหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่มีการซื้อขายเยอะ ก็มีความผันผวนสูงค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกมากมาย ทั้งเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย นโยบายรัฐบาล เหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เราควบคุมไม่ได้เลย นอกจากนี้ การซื้อขายด้วยมาร์จิน (Margin) หรือการกู้เงินมาซื้อหุ้น ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ถ้าตลาดไม่เป็นไปตามที่เราคาด อาจถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell) จนเสียหายหนักได้เลยค่ะ

อีกเรื่องที่สำคัญมากๆ คือ ข้อมูลที่เราเห็นตามเว็บไซต์ต่างๆ อาจไม่ใช่ข้อมูลแบบเรียลไทม์เป๊ะๆ นะคะ อาจจะมีการหน่วงเวลาบ้าง เป็นแค่ข้อมูลชี้นำให้เราเห็นภาพรวม เหมือนเราดูแผนที่เก่าหน่อยๆ อาจจะพาเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หรือการอัปเดตล่าสุดอาจจะยังไม่มีค่ะ ดังนั้น เราไม่ควรพึ่งพาข้อมูลจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งโดยไม่ตรวจสอบ หรือตัดสินใจลงทุนทันทีโดยอาศัยแค่ข้อมูลพวกนี้ค่ะ ผู้ให้บริการข้อมูลส่วนใหญ่เขาก็จะมีการแจ้งข้อจำกัดความรับผิดชอบไว้ชัดเจน ว่าเขาไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการซื้อขาย หรือการพึ่งพาข้อมูลบนเว็บไซต์ของเขา เพราะข้อมูลเป็นแค่ข้อมูลทั่วไป ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุนที่เหมาะกับแต่ละบุคคล

นอกจากเรื่องของดัชนี ‘หุ้น100’ ที่เป็นภาพรวมของหุ้นใหญ่แล้ว หลายคนก็อาจจะฝันอยากจะเจอ “หุ้น 100 เด้ง” ใช่ไหมคะ? อันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ไม่ได้หมายถึงหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET100 โดยตรง แต่หมายถึงหุ้นของบริษัทที่สามารถเติบโตขึ้นได้หลายเท่าตัวภายในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งการหาหุ้นแบบนี้เนี่ย ต้องใช้ความพยายามและเข้าใจลักษณะธุรกิจมากๆ

หุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงแบบก้าวกระโดด มักจะมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายกันค่ะ อย่างแรกเลย คือต้องทนถือหุ้นระยะยาวได้ เพราะการเติบโตแบบ 100 เด้งมันไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ในวันสองวัน อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีมากๆ ถัดมา ธุรกิจของบริษัทต้องมีการเติบโตของกำไรและกระแสเงินสดที่ดีเยี่ยม และนำกำไรที่ได้ไปลงทุนต่อยอดธุรกิจให้เติบโตไปอีก ไม่ใช่ปันผลออกมาหมด นอกจากนี้ บริษัทมักจะมีผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE – Return on Equity) ที่สูงต่อเนื่อง (มากกว่า 15%) แสดงว่าบริษัทใช้เงินทุนจากผู้ถือหุ้นไปสร้างกำไรได้ดีมากๆ

ปัจจัยสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย คือ ผู้บริหารค่ะ ต้องเป็นผู้บริหารที่เก่ง เข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง โปร่งใส และมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อประโยชน์ระยะยาวของบริษัทและผู้ถือหุ้นร่วมกัน ไม่ใช่แค่ทำเพื่อผลงานระยะสั้นเพื่อปั่นราคาหุ้นเล่นๆ การที่ผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารหลักยังคงถือหุ้นในบริษัทเป็นสัดส่วนที่เยอะ ก็เป็นอีกสัญญาณที่ดีค่ะ แสดงว่าเขามีความผูกพันกับบริษัทและเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของมันจริงๆ

สรุปง่ายๆ นะคะ ‘หุ้น100’ คือดัชนีที่เราใช้อ้างอิงดูภาพรวมหุ้นใหญ่ในไทย การลงทุนใน SET100 ผ่าน ETF หรือตราสารอื่นๆ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากลงทุนตามภาพรวมของหุ้นชั้นนำ ส่วน “หุ้น 100 เด้ง” เป็นแนวคิดการลงทุนระยะยาวในบริษัทที่มีศักยภาพเติบโตสูงมากๆ ซึ่งอาจจะเป็นบริษัทที่อยู่ใน SET100 หรือนอก SET100 ก็ได้ค่ะ

ไม่ว่าคุณจะสนใจลงทุนใน ‘หุ้น100’ หรือตามหา ‘หุ้น 100 เด้ง’ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘การบ้าน’ ค่ะ ต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังจะลงทุนจริงๆ อย่าลงทุนตามกระแส หรือตามเพื่อนโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ที่สำคัญที่สุดคือ การประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ค่ะ

⚠️ จำไว้เสมอว่า การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน และอาจไม่เหมาะกับทุกคนนะคะ ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ หรือเป็นมือใหม่มากๆ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินก่อนตัดสินใจลงทุนค่ะ เพื่อที่เราจะได้ลงทุนอย่างเข้าใจและสบายใจที่สุดค่ะ

Leave a Reply