ไขข้อสงสัย SET100 มีอะไรบ้าง 2566: เจาะลึกหุ้นเด่น-หุ้นร่วง ปีแห่งความท้าทาย

เคยสงสัยไหมว่าเวลาที่ข่าวพูดถึง “ดัชนี SET100” เนี่ย เขาหมายถึงอะไรกันนะ? แล้วหุ้นที่อยู่ในนั้นมีตัวไหนบ้าง ปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นยังไง แล้วปี 2567 มีอะไรน่าจับตา วันนี้ในฐานะเพื่อนนักลงทุนที่ชอบเล่าเรื่องการเงินให้เข้าใจง่ายๆ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับดัชนีตัวนี้กันแบบถึงลูกถึงคนเลยครับ

**SET100 คืออะไร? ทำไมต้องสนใจ?**

ลองนึกภาพตลาดหุ้นไทยเหมือนสนามฟุตบอลที่มีนักเตะเต็มไปหมดเลยนะครับ ดัชนี SET Index ก็เหมือนคะแนนรวมของทั้งทีม แต่ SET100 Index เนี่ยคือการคัดเอานักเตะตัวท็อป 100 คนแรกที่เก่งที่สุด (ในที่นี้คือบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีคนซื้อขายหุ้นเยอะๆ หรือเรียกว่ามีสภาพคล่องสูง) มารวมกันเป็นทีมพิเศษอีกทีมหนึ่ง เพื่อให้เราเห็นภาพรวมของบริษัทใหญ่ๆ ในประเทศชัดๆ ครับ

ทีม SET100 นี้ไม่ได้มีรายชื่อคงที่นะครับ เขามีการประเมินผลงานและปรับเปลี่ยนรายชื่อนักเตะใหม่ทุกๆ 6 เดือน (รอบเดือนมิถุนายนกับเดือนธันวาคม) เพื่อให้มั่นใจว่า 100 ตัวที่อยู่ในทีมเนี่ยเป็นตัวจริงเสียงจริงในแต่ละช่วงเวลาจริงๆ เกณฑ์ในการคัดเลือกหลักๆ ก็ดูที่ขนาดของบริษัท (มูลค่าตลาด) สภาพคล่องในการซื้อขาย และสัดส่วนหุ้นที่คนทั่วไปซื้อขายได้ (Free-float) ครับ ตัวดัชนี SET100 เขาเริ่มคำนวณมาตั้งแต่ปี 2548 ด้วยค่าเริ่มต้นที่ 1,000 จุด เพื่อใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงต่างๆ ในตลาด

แล้ว **set 100 มีอะไรบ้าง 2566** ในความหมายของปีที่ผ่านมาเนี่ย มันแสดงให้เห็นภาพรวมของหุ้นไทยตัวใหญ่ๆ ได้ดีเลยครับ ปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ตลาดหุ้นไทยรวมถึงทีม SET100 เจอศึกหนักหลายด้านเลยครับ

**ปี 2566: ปีที่ไม่ง่ายของตลาดหุ้นไทยและ SET100**

ถ้าจะบอกว่าปี 2566 เป็นปีที่ท้าทายสุดๆ ของตลาดหุ้นไทยก็ไม่ผิดเลยครับ เพราะดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงตลอดทั้งปี ปิดท้ายปีที่ 1,415.85 จุด ลดลงไปถึง 15.15% จากปลายปี 2565 ที่ 1,668.66 จุด แถมยังเคยลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ 1,354.73 จุดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 อีกด้วย มูลค่ารวมของตลาดหุ้นไทยก็ลดลงไปกว่า 3.11 ล้านล้านบาท ที่น่าสนใจคือนักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายขายสุทธิออกไปเยอะมากๆ ครับ กว่า 1.9 แสนล้านบาทตลอดปี

แน่นอนว่าเมื่อตลาดรวมไม่สดใส ทีมตัวท็อปอย่าง SET100 ก็ได้รับผลกระทบไปด้วยครับ ดัชนี SET100 ปิดปี 2566 ที่ 1,938.83 จุด ลดลงประมาณ 14.13% จากปีก่อนหน้า ซึ่งใกล้เคียงกับดัชนี SET Index

สาเหตุที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนในปี 2566 มันดูหม่นๆ ขนาดนี้ ก็มาจากหลายปัจจัยผสมกันครับ ทั้งเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “เฟด” ที่ยังคงขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ทำให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กลับไปที่สหรัฐฯ ปัญหาของภาคธนาคารในสหรัฐฯ ช่วงต้นปีก็สร้างความกังวลไปทั่วโลก เรื่องการเมืองในบ้านเราเองที่ใช้เวลานานกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สถานการณ์ความตึงเครียดในอิสราเอลที่ปะทุขึ้นช่วงปลายปี และที่สำคัญคือเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่หลายคนคาดหวัง ปัจจัยเหล่านี้เหมือนพายุหลายลูกที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ตลาดหุ้นปรับฐานลงมาครับ

**แล้วหุ้นใน set 100 มีอะไรน่าจับตาเรื่องผลงานบ้าง?**

แม้ภาพรวมปี 2566 จะดูอึมครึม แต่ก็ไม่ได้แปลว่าหุ้นทุกตัวจะแย่ไปหมดนะครับ ในบรรดาหุ้น 100 ตัวนี้ก็มีทั้งคนที่ปรับตัวขึ้นและลงอย่างโดดเด่น ลองมาดูกันว่า **set 100 มีอะไรบ้าง 2566** ที่เป็นดาวเด่นหรือเจอแรงกดดันหนักๆ ในแง่ของราคาหุ้นกันครับ

สำหรับหุ้นใน SET100 ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงที่สุด 10 อันดับแรกในปี 2566 ยกตัวอย่างเช่น BCP ที่ราคาพุ่งขึ้นมาเยอะ (จากข้อมูลมีการเติบโตกว่า 38.1% ในปี 2566) WHA ที่ก็มาแรงเช่นกัน (+29.9%) และ AMATA (+25.6%) ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มักจะมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมาสนับสนุนครับ

ในทางกลับกัน หุ้นที่ราคาปรับตัวลดลงหนักที่สุด 10 อันดับแรกในปี 2566 ก็มีเช่นกันครับ ยกตัวอย่าง BYD ที่ราคาลดลงไปถึง 66.0%, JMT ลดลง 63.0%, JMART ลดลง 57.5% ซึ่งกลุ่มนี้มักจะเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจ หรือผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังครับ

มองข้ามมาที่ผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมา (ตามข้อมูลล่าสุด) ก็มีหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่โชว์ฟอร์มเรื่องกำไรสุทธิได้น่าทึ่งมากๆ โดยมีถึง 15 ตัวที่กำไรสุทธิเติบโตสูงสุด โดยเฉพาะ JTS หรือบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีกำไรสุทธิถึง 594 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 10,295%! รองลงมาคือ AAV หรือบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีกำไรสุทธิ 3,478 ล้านบาท เติบโต 647% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บอกเราว่า แม้ตลาดรวมจะผันผวน แต่ก็ยังมีบริษัทที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างมหาศาลครับ

นอกจากเรื่องการเติบโตของราคาหรือกำไรแล้ว อีกเรื่องที่นักลงทุนหลายคนชอบดูก็คือ “เงินปันผล” ครับ จากข้อมูลช่วงกลางปี 2566 ก็มีหุ้นใน SET100 หลายตัวที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 7.00% ยกตัวอย่างเช่น PSL, SPRC, BANPU, STA, STGT, ESSO, TOP, TISCO, SIRI ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มพลังงานและอสังหาริมทรัพย์ หุ้นเหล่านี้ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ทำให้ **set 100 มีอะไรบ้าง** ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผลครับ

**กูรูมองหุ้น SET100 ตัวไหนน่าสนใจ? (ข้อมูล ณ ช่วงเวลาในข้อมูลดิบ)**

มุมมองจากนักวิเคราะห์ก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการตัดสินใจลงทุนนะครับ อย่างเช่น บล. ดาโอ (ประเทศไทย) เคยแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BCP หรือบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมองว่าผลการดำเนินงานในปี 2567 จะดีขึ้น จากธุรกิจการกลั่นและธุรกิจอื่นๆ หรือ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) เคยแนะนำ “ถือ” หุ้น WHA หรือบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่ายอดขายและโอนที่ดินจะดีต่อเนื่อง ซึ่งมุมมองเหล่านี้ก็มาจากปัจจัยเฉพาะของแต่ละบริษัทครับ (โปรดจำไว้ว่ามุมมองเหล่านี้เป็นข้อมูล ณ ช่วงเวลาที่ปรากฏในข้อมูลดิบ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเสมอ)

**การปรับทีม SET100: นักเตะใหม่ปี 2567 มีใครบ้าง?**

อย่างที่บอกไปว่ารายชื่อหุ้นใน SET100 มีการปรับเปลี่ยนทุก 6 เดือนครับ ในการทบทวนรายชื่อสำหรับช่วง 1 ธันวาคม 2566 ถึง 30 พฤศจิกายน 2567 ก็มีหุ้นใหม่ 4 ตัวที่ได้เข้ามาอยู่ในทีม SET100 ครับ คือ CCET (บมจ. แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย)), COCOCO (บมจ. ไทย โคโคนัท), JTS (บมจ. จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น) และ PR9 (บมจ. โรงพยาบาลพระรามเก้า) การที่หุ้นเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ใน SET100 ก็แสดงให้เห็นว่าบริษัทเหล่านี้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีสภาพคล่องสูงขึ้นจนผ่านเกณฑ์ครับ

**อยากลงทุนใน SET100 ทำยังไง?**

หลายคนอาจจะคิดว่าก็แค่ซื้อดัชนี SET100 ตรงๆ เลยสิ เหมือนซื้อหุ้นตัวหนึ่ง แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถซื้อตัวดัชนี SET100 ได้โดยตรงนะครับ

วิธีลงทุนใน SET100 คือต้องลงทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ที่ใช้ดัชนีนี้เป็นเกณฑ์อ้างอิงครับ ตัวอย่างเช่น:

1. **ตราสารอนุพันธ์ (Derivatives):** เช่น SET100 Index Futures หรือ SET100 Index Options ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับดัชนี SET100 การซื้อขายเครื่องมือเหล่านี้ต้องเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) และมีความซับซ้อน รวมถึงความเสี่ยงสูงกว่าการซื้อขายหุ้นทั่วไปครับ
2. **กองทุนรวม ETF (Exchange Traded Fund):** เป็นกองทุนประเภทหนึ่งที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เหมือนหุ้นทั่วไป และมีนโยบายลงทุนโดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง ตัวอย่าง ETF ที่อ้างอิง SET100 ก็เช่น THAI DEX SET100 ETF การลงทุนใน ETF ก็เหมือนกับการซื้อหุ้นรวมๆ ที่อยู่ใน SET100 ในสัดส่วนใกล้เคียงกับดัชนี ทำให้กระจายความเสี่ยงได้ระดับหนึ่งครับ

การลงทุนผ่านสองวิธีนี้มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป การลงทุนในอนุพันธ์อาจให้โอกาสสร้างกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ส่วนการลงทุนใน ETF จะเน้นให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีมากกว่าครับ การเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความรู้ ประสบการณ์ และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของผู้ลงทุนแต่ละคนครับ

**สรุป: set 100 มีอะไรบ้าง?**

ตอบง่ายๆ ก็คือ SET100 คือ “ทีมรวมดาว” ของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง 100 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทยครับ เป็นดัชนีสำคัญที่สะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจและธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ ปี 2566 ที่ผ่านมา ทีมนี้เผชิญกับความท้าทายรอบด้านจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ภาพรวมดัชนีปรับตัวลง

แต่ถึงอย่างนั้น ในทีม **set 100 มีอะไรบ้าง** ที่ยังคงน่าสนใจ ทั้งในแง่หุ้นที่ฟื้นตัวแรง หุ้นที่ทำกำไรเติบโตโดดเด่น หรือหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง แถมรายชื่อสมาชิกในทีมก็มีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ

สำหรับใครที่สนใจลงทุนในหุ้นไทย การทำความรู้จักกับดัชนี SET100 และหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ ครับ เพราะนี่คือกลุ่มบริษัทที่เป็นหัวใจหลักของตลาด

⚠️ **คำเตือน:** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หุ้นใน SET100 อาจเป็นบริษัทใหญ่ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย หากเงินลงทุนของคุณมีความสำคัญและไม่คล่องตัว การศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นนะครับ

Leave a Reply